หน.แก่งกระจาน ยันไม่พบ กะเหรี่ยงบางกลอย หนีขึ้นใจแผ่นดิน ยกคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ห้ามชาวบ้านกลับพื้นที่เดิม ลั่นพร้อมใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

เพิ่มเพื่อน

กรณีมีกระแสข่าวว่าชาวบ้านกะเหรี่ยงบางกลอยประมาณ 30 – 40 คน เดินเท้ากลับใจแผ่นดิน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องพื้นที่ทำกิน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 ม.ค. นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า ตัวเลข 40 คน เป็นตัวเลขที่จริงหรือไม่ หรือแค่คำโฆษณา แล้วใครบอกให้พวกเขาเข้าไปในป่า ฝ่ายราชการ ฝ่ายเอ็นจีโอ หรือพวกเขาต้องการเข้าไปเอง หรือเป็นการยุยงปลุกปั่น เพราะการเข้าไปถางป่า สร้างกระท่อม ถือเป็นการยึดครอบครองพื้นที่ป่า เป็นการบุกรุกป่าและผิดกฎหมายอย่างชัดเจน

นายมานะ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามกระแสข่าวนี้ ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เข้าไปสำรวจในพื้นที่แล้ว ซึ่งยังไม่พบเจอใคร เลยต้องตั้งคำถามว่ากระแสข่าวดังกล่าวจริงหรือไม่ แต่ก็มีจากการข่าวแจ้งว่ามีประมาณ 8 คน ที่อาจจะเข้ามาในพื้นที่

นอกจากนี้เมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อุทยานฯแก่งกระจาน ได้ลาดตระเวนในพื้นที่และพบกระท่อมใหม่กลางป่าห่างจากหมู่บ้านบางกลอยประมาณ 16 กิโลเมตร ภายในพบซากเลียงผา 1 ตัว ถูกเลาะเนื้อเหลือแต่หนังกับกระดูก และจากการซุ่มดูก็ไม่พบใครกลับย้อนมาในกระท่อมแห่งนี้อีก ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มที่ลอบขึ้นมาหรือจากกลุ่มเมียนมากันแน่

นายมานะ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอุทยานฯ ยังคงลาดตระเวนกันอย่างเข้มข้น และส่วนใหญ่ยังลักลอบเข้ามาล่าสัตว์ และหาของป่ากันอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จับกุมดำเนินคดีกันไป แต่ในส่วนของกะเหรี่ยงบางกลอยที่ประกาศจะเข้ามายังกลางใจป่าต้องดูว่าทำในเชิงสัญลักษณ์ หรือต้องการเข้ามาอยู่จริงๆ ซึ่งกรมอุทยานฯต้องยึดหลักทางกฎหมาย ถ้ากฎหมายระบุว่าให้ชาวบ้านเข้ามาอยู่ได้ก็สามารถทำกินได้ตามปกติ แต่หากกฎหมายระบุว่าห้ามอยู่ ก็ต้องดำเนินการเช่นนั้น

ซึ่งกรณีนี้ทางศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาไม่ให้กลับมาอาศัยทำกินในบ้านบางกลอยบน และบ้านใจแผ่นดิน เพราะอยู่ในเขตอุทยานฯ และผู้ฟ้องไม่มีหลักฐานแสดงการอนุญาตจากทางราชการ ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะพยายามปกป้องผืนป่าอย่างดีที่สุด และทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน