ตร.สายไหม เรียกตรวจบัตรปชช. ชายวัย16 รีบขี่จยย. เอาบัตรมาให้พี่สาว กลับโดนจับใส่กุญแจมือ ข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก แฉเห็นกับตา น้องโดนอัดในห้องสอบสวน

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์หญิงสาวยืนร้องไห้หลังน้องชายถูกตำรวจจับกุม และอ้างว่าโดนทำร้ายร่างกาย พร้อมระบุข้อความว่า “เหตุเกิดที่หลังวัดสายไหม สน.สายไหม น้องสาวขับรถไปขายของตอนตีสี่ ตำรวจสายตรวจเรียกตรวจบัตร แต่ไม่ได้พกบัตร

เลยโทรหาน้องชายคนในคลิปเอาบัตรไปให้ แต่พอไปถึงกลับบอกไม่ใส่หมวกกันน็อก จะจับ พอน้องต่อว่าจะจับได้ไงป้ายตั้งด่านก็ไม่มี ตำรวจโมโหเลยกระชากล็อกตัวเอาไปโรงพัก แต่พอไปถึงกลับเอาน้องเข้าไปทำร้ายร่างกาย ได้เอาก้อนข้าวสารที่อัดไว้แข็ง ๆ มาทุบลำตัว

ทั้งตบ ทั้งบิดคอน้องในห้องสอบสวน น้องยังเด็กอยู่เลยทำไปได้ ได้ยึดโทรศัพท์น้อง ๆ ไว้หมด อยากได้ความยุติธรรมประเทศไทยยังมีความยุติธรรมอยู่หรือไม่” เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 1 ก.พ. 64 จนมีผู้แชร์คลิปดังกล่าวออกไปวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 1 ก.พ. 2564 ที่สน.สายไหม น.ส.เยอ แซ่ว่าง เชื้อชาติม้ง สัญชาติไทย อายุ 21 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันนี้ ขณะที่น.ส.มิ แซ่ลี อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของตน กำลังขี่รถจยย. พ่วงข้างออกจากบ้านพักซอยสายไหม 38 ไปขายไก่ทอดที่ตลาดนัดย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี

เมื่อขี่มาถึงซอยสายไหม 39 พบตำรวจสน.สายไหม 4 นาย เรียกหยุดตรวจบัตรประชาชน แต่น.ส.มิ ไม่ได้พกบัตรประชาชนไปด้วยจึงรีบโทรศัพท์มาหาตน ตนพร้อมกับนายนาต้อง แซ่ท่อ อายุ 16 ปี น้องชายต่างพ่อของตน จึงนำบัตรประชาชนของน.ส.มิ ไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่

แต่ขณะที่ขี่รถจยย. ไปถึงตนกับนายนาต้อง ไม่ได้สวมหมวกกันน็อกจึงถูกทางเจ้าหน้าที่แจ้งจับในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ก่อนนายนาต้อง จะถูกควบคุมตัวไปสน.สายไหม

น.ส.เยอ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่าระหว่างที่กำลังเจรจากับตำรวจ ทางฝ่ายตนไม่มีการด่าทอ หรือพูดจาหยาบคายแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พอใจเนื่องจากฝ่ายตนมีการซักถามถึงเรื่องการตั้งด่านตรวจที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีแม้แต่ป้ายด่านตรวจ อีกทั้งฝ่ายตนยังยกโทรศัพท์ถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อมาถึงสน.สายไหม นายนาต้อง ก็ถูกกระชากตัวไปสอบสวนในห้องปฎิบัติการสายตรวจทันที พร้อมทั้งมีการด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตนมองผ่านกระจกเห็นน้องชายถูกตำรวจตบที่ท้ายทอย และดึงตัวไปอีกมุมห้อง ซึ่งขณะนั้นตนไม่สามารถช่วยเหลือน้องชายได้แม้แต่จะถ่ายคลิปก็ถูกทางตำรวจสั่งห้าม พร้อมว่ากล่าวตักเตือนและขู่จะยึดโทรศัพท์มือถือ

ตนขอยืนยันว่า น้องชายตนไม่ได้มีการต่อสู้ขัดขืนหรือทำร้ายร่างกายตำรวจ แต่ขณะที่อยู่ในห้องสอบปากคำตนไม่ทราบต้องไปดูกล้องวงจรปิดภายในห้อง ทั้งนี้ตรงจุดเกิดเหตุดังกล่าวมักมีตำรวจไปตั้งด่านแต่นาน ๆ ทีจะเจอสักครั้ง โดยทุกครั้งที่พบเห็นก็ไม่เคยถ่ายคลิปเก็บไว้มีเพียงครั้งนี้ที่ต้องถ่าย

ซึ่งครั้งนี้น.ส.มิ ถูกแจ้งข้อหาไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน ส่วนนายนาต้อง ถูกดำเนินคดีในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย โดยหลังจากนี้ตนจะปรึกษากับทางผู้ปกครองว่าจะดำเนินการอย่างไร และจะขอต่อสู้คดีที่ทางตำรวจทำร้ายร่างกายให้ถึงที่สุด” น.ส.เยอ กล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาแก่นายนาต้อง รวม 2 ข้อหา คือ “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และขัดขวางการจับกุม” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน