พบเบาะแสสาวเพชรบุรีที่หายไป 5 ปี พลเมืองดีแจ้งแม่ระบุศพถูกฝังในไร่บ้านของแม่นายจ้าง ตร.ท้องที่และ กองปราบฯประสานมูลนิธิกู้ภัยขุดค้นหาพบเหลือแต่โครงกระดูก ด้านแม่เหยื่อยืนยันจำเสื้อได้ ส่วนตำรวจส่งพิสูจน์ดีเอ็นเอว่าใช่ หรือไม่ เผยก่อนหายสาบสูญมีนายจ้างมารับไปทำงานบ้านที่กรุงเทพฯ จากนั้นก็อ้างเด็กหนีออกจากบ้านไป จึงไปพึ่งมูลนิธิปวีณาฯช่วยติดตาม จนมีผู้แจ้งว่าถูกนายจ้างทำร้ายจน เสียชีวิตและพบจุดฝังดังกล่าว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 พ.ย. พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รรท.ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ. ศิลปชัย มีช่วย ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจบก. 5 ป. เดินทางไปยังพื้นที่ไร่ บริเวณซอยศาลาลอย 4 บ้านนามอญ หมู่ 7 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี หลังได้รับ การประสานจากนางปวีณา หงสกุล ประธาน มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่าได้ รับแจ้งจากนางจันทิรา ศรีศักดิ์ ชาวจังหวัดเพชรบุรี ระบุบุตรสาวคือ น.ส.จริยา หรือน้ำ ศรีศักดิ์ อายุ 16 ปี ที่หายสาบสูญไปนานกว่า 5 ปี ขณะนี้ได้เบาะแสว่าถูกทำร้ายเสียชีวิต และถูกนำศพมาซุกซ่อนอำพรางไว้ที่บริเวณ ดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี ขุดค้นหาบริเวณใต้ต้นตาลท้ายไร่ ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับแจ้งเบาะแส ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ขุดลึกไปประมาณ 1 เมตร พบ ห่อพลาสติกขนาดใหญ่ เปิดดูพบผ้าห่มห่อหุ้มถุงขยะพลาสติกดำ คลี่ออกพบโครงกระดูกมนุษย์ทั้งตัว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานร่วมกับแพทย์ ร.พ.พระจอมเกล้านำศพขึ้นมาตรวจสอบ พบศพดังกล่าวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมกางเกงในสีเนื้อ ไม่พบเสื้อผ้าและหลักฐานอื่น แพทย์ชันสูตรศพ พบกรามด้านซ้ายหัก ซี่โครงขวาหัก

ต่อมาเวลา 15.30 น. นางปวีณาได้นำ นางจันทิราเดินทางไปที่เกิดเหตุ นางจันทิรา ยืนยันว่าเสื้อผ้ารูปร่างและเส้นผมที่ยังหลงเหลืออยู่เป็นของบุตรสาว ทั้งนี้ นางจันทิราเปิดเผยว่า เมื่อปี 2554 ได้มี น.ส.ปลา เพื่อนของ ตนมาบอกว่ามีคนที่รู้จักต้องการคนไปทำงานบ้านในกรุงเทพฯ ตนจึงได้อนุญาตให้บุตรสาวเดินทางไปทำงาน โดยพาไปส่งไว้ที่บ้านของแม่ของ น.ส.โม(นามสมมติ) นายจ้างในอำเภอเมืองเพชรบุรี เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2554 จากนั้นนายจ้างได้เดินทางจากกทม. มารับลูกสาวตนขึ้นไปทำงาน โดยสัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวตนเป็นอย่างดี และจะพากลับมาหาทุกอาทิตย์ แต่ปรากฏว่านายจ้างไม่เคยพาลูกสาวกลับมาสักครั้ง ในช่วง 2 เดือนแรกได้ติดต่อกับลูกสาวเพียงโทรศัพท์ 2 ครั้ง ผ่านเบอร์ของนายจ้าง

นางจันทิรากล่าวต่อว่า ครั้งสุดท้ายวันที่ 13 เมษายน 2554 ลูกสาวบอกว่าอยากกลับบ้าน จากนั้นโทรศัพท์ได้ตัดไป ตนพยายามติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เกรงลูกจะเป็นอันตราย จึงได้ให้ น.ส.ปลาติดต่อนายจ้างของลูกสาว แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ต่อมานายจ้างได้ติดต่อมาและอ้างว่าลูกสาวตนหนีออกจากบ้านไป ตนจึงเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองเพชรบุรี และพยายามตามหาแต่ไม่มีวี่แวว กระทั่งช่วงกลางเดือนตุลาคม 2560 มีพลเมืองดีให้เบาะแสตนว่าลูกสาวตนถูกนายจ้างซ้อมจนเสียชีวิต และนำศพมาฝังไว้ใกล้กับต้นตาลหลังบ้านของแม่นายจ้างในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ประกอบกับตนฝันว่าลูกสาวมาบอกจุดดังกล่าวเช่นเดียวกัน จึงประสานไปยังมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อช่วยเหลือ เนื่องจากครอบครัวของนายจ้างเป็นผู้มีอิทธิพลในย่านดังกล่าว เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย และเป็นธรรม

ด้านนางปวีณากล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2554 นางจันทิราได้แจ้งเรื่องดังกล่าวไว้กับตนครั้งหนึ่งแล้ว ตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามค้นหาเบาะแส แต่ไม่มีความคืบหน้า กระทั่งได้รับทราบเบาะแสข้อมูลชี้จุดฝังศพครั้งนี้ ตนจึงประสานพล.ต.ต.ไมตรีมาดำเนินการตรวจสอบขุดค้นจนเจอศพ

เบื้องต้น พล.ต.ต.ไมตรีประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานรวบรวมหลักฐาน และจะได้ส่งกระดูกดังกล่าวไปพิสูจน์ดีเอ็นเอ และจะติดตามสืบหาผู้กระทำความผิดในคดีดังกล่าวมาดำเนินคดีต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน