เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายชายชาญ ใบมงคล ครีเอทีฟ โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 รพ.ทั่วประเทศ กล่าวถึงอาการเจ็บของ ตูน บอดี้สแลม ว่า อาการปวดเมื่อยตามร่างกายถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อวานนี้ต้องยอมรับว่ามีประชาชนจำนวนมากที่ห่วงใยตูน มาต้อนรับ การวิ่งก็เป็นการวิ่งในช่องทางจราจรเลนเดียว แต่มีการจอดรถกีดขวาง คนเข้ามาขอถ่ายภาพกับตูนจำนวนมาก ก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่เกรงว่าความหนาแน่นของคนที่เข้ามาขอถ่ายภาพ จะทำให้วัตถุประสงค์ของการวิ่งเปลี่ยนแปลงไป เพราะสัญลักษณ์ของการวิ่งในครั้งนี้ คือการนำเงินบริจาคไปช่วยเหลือโรงพยาบาล ระยะทางเมื่อวานนี้ ในเส้นทางที่คนเข้ามาขอถ่ายภาพแค่ 6 กิโลเมตร แต่ด้วยความหนาแน่น ทำให้ตูนต้องใช้เวลาวิ่งนานถึง 4 ชั่วโมง ทั้งที่จริงๆ ใช้เวลาวิ่งแค่ 30 นาที ส่วนอาการปวดหลังก็มาจากการต้องก้ม ย่อ ถ่ายภาพเซลฟี่กับประชาชน ที่รักและอยากใกล้ชิด
นายชาญชัย กล่าวว่า เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ตนและทีมจะได้วางแผนใหม่และขอร้องประชาชนที่ต้องการถ่ายภาพร่วมกับตูน ไปรอตามจุดพักคอย และขอให้เคารพเจตนาและวัตถุประสงค์ของการวิ่ง เพื่อหาเงินบริจาคเป็นหลัก โดยให้ถ่ายภาพเป็นหมู่คณะ เพราะตูนคงไม่สามารถถ่ายรูปกับทุกคนได้ทั้งหมด หากทำเช่นนั้นจะทำให้แผนการวิ่งเปลี่ยน เมื่อวานนี้ ( 4 พ.ย.) ยังเหลือระยะทางที่ตูนยังวิ่งไม่ถึง เพราะติดมวลชนรวมถึง 48 กิโลเมตร ทำให้แทนที่วันนี้ตูนจะได้หยุดพัก กลับต้องมาวิ่งต่อ และหากเป็นเช่นนี้ไปนานๆ ตูนจะไม่ได้หยุดพักเลย ซึ่งไม่ดีกับร่างกายแน่นอน
ส่วนความห่วงใยและสุขภาพ ในทีมวิ่งมีพญ.สมิตดา สังข์โพธิ์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวของตูนดูแลอยู่แล้ว และเมื่อวานนี้ก็ได้รับทีมแพทย์สนับสนุนจากรพ.ศูนย์ยะลาดูแล ไม่น่าเป็นห่วง แต่อย่างไรก็ตามต้องวอนขอให้ประชาชนเข้าใจ เพราะหากมัวแต่ถ่ายภาพจะกระทบกับงาน ตั้งแต่การปิดจราจร ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ การดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ สต๊าฟทำงาน โรงแรมที่พัก ระยะทางและวัตถุประสงค์ในการวิ่งอาจต้องเปลี่ยนทั้งหมด