ทนายเดชา จวกคนนอกเหมือนไส้ติ่ง เผยแม่ไม่ติดใจ’เต๊ะ’ แต่ไม่อยากให้ยุ่งคดีแล้ว ชี้กาลเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน จึงมองว่าหมอพรทิพย์ไม่จำเป็นแล้ว

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 มี.ค.65 ที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในฐานะทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือคุณแม่แตงโม นิดา กล่าวถึงกรณียื่นหนังสือขอให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม โดยระบุว่าเหตุผลหลักที่ยื่นถอนเรื่อง เพราะมีสมาชิกของกมธ. นำเรื่องในสำนวนและการผ่าชันสูตรไปเผยแพร่ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจซึ่งไม่เหมาะสม ประกอบกับนางภนิดาพิจารณาเห็นว่าไม่มีความต้องการให้กมธ. ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพราะไม่มีข้อสงสัยใดๆแล้วว่า

สำหรับกรณีที่นางภนิดาถูกวิจารณ์ว่าเปลี่ยนไปนั้น เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน ตอนนี้มองว่าคุณหมอพรทิพย์หมดความจำเป็น เนื่องจากในตอนนั้นเป็นทนายเดิมที่ดูแล ด้วยสถานการณ์ฉุกละหุก ทนายเดิมเลยแนะนำให้ไปขอคำแนะนำจากกมธ. แต่หลังจากนางภนิดาได้ไปพบตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พบหมอนิติเวช สถานการณ์เลยเปลี่ยน พบว่าการทำงานของตำรวจมีความเรียบร้อยดี ทำให้นางภนิดาหมดข้อสงสัย จึงมองว่าคุณหมอพรทิพย์ไม่มีความจำเป็นแล้ว

นายเดชา เผยต่อว่า นางภนิดาไม่ได้ถูกกดดัน หรือถูกข่มขู่ และไม่มีใครเข้ามาแทรกแซง เพราะนางภนิดาไม่กลัวใครอยู่แล้ว แต่การที่นางภนิดาเข้าไปพูดคุยกับตำรวจ เจ้าหน้าที่เพียงระบายกับนางภนิดา โดยเผยถึงความทุกข์ใจที่สมาชิกกมธ. ไปให้สัมภาษณ์เหมือนเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่ว่าทำงานเอนเอียง นางภนิดาเลยตัดสินใจด้วยตนเองว่าให้ถอนเรื่องให้จบ จะได้ไม่มีใครมีสิทธิ์มาพูดอีก โดยนางภนิดาเองก็ต้องพึ่งตำรวจเพราะถ้าหากเจ้าหน้าที่ไม่สืบสวนคดีให้แล้ว ใครจะทำ ซึ่งตำรวจมีการรายงานให้นางภนิดาทราบทุกอย่างจนเป็นที่พอใจ เพียงแค่ไม่ได้บอกกล่าวต่อสังคม

นายเดชา เผยว่า ขณะนี้นางภนิดาเองไม่ได้กังวลเรื่องคดีแล้วแถมยังชวนตนไปร้องเพลงอยู่เลย โดยนางภนิดาก็มั่นใจ 100% ว่าแตงโมจะได้รับความยุติธรรม เพราะทุกข้อสงสัยของสังคม ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบหมดแล้ว รอเพียงการแถลงปิดคดีเท่านั้น ซึ่งคาดว่าไม่เกินวันที่ 24 เม.ย.นี้ ก็อาจจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติม ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและรอการสรุปต่อไป

ส่วนกรณีผู้ที่นำเรื่องต่างๆในสำนวน หรือเรื่องของการผ่าชันสูตรศพไปพูดโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น นายเดชา เผยว่า หากหลังจากนี้ยังไม่หยุด แล้วนางภนิดาเกิดทนไม่ไหว ก็ขอให้เตรียมรับหมายศาล เช่นเดียวกับโซเชียลที่มาวิพากษ์วิจารณ์นางภนิดาเกินความจำเป็นด้วย แต่ตอนนี้นางภนิดายังเฉยๆ แต่ถ้าไม่หยุดก็เตรียมรับหมายศาลเช่นกัน

สำหรับกรณีของนายศตวรรษ หรือเต๊ะ ที่นางภนิดาเผยว่า เป็นคนนอก ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ตัวแทนญาตินั้น ทนายเดชา เผยว่า นางภนิดาไม่ได้ติดใจอะไรกับคุณเต๊ะ ในตอนที่เข้าไปสังเกตการผ่าชันสูตรศพรอบ 2 ซึ่งนางภนิดาได้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรยินยอมให้เข้าไปสังเกตการณ์ แต่ไม่ได้ระบุว่าให้เข้าไปในฐานะตัวแทนของคุณแม่หรือญาติ คุณเต๊ะเองก็ไม่ได้มีการเอาเรื่องต่างๆ ไปให้สัมภาษณ์มากนัก นางภนิดาจึงไม่ได้ติดใจอะไร เพียงแต่จุดมุ่งหมายในตอนนี้นั้น ไม่ต้องการให้คนนอก ไม่ว่าใครก็ตามเข้ามายุ่งเกี่ยวอีกแล้ว เพราะมองว่าไม่มีประโยชน์ต่อรูปคดี เปรียบเหมือนไส้ติ่งที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน