เอไอเอส เปิดสายด่วนโทรฟรี 1185 รับเรื่องร้องเรียนเบอร์มิจฉาชีพ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมบล็อกเบอร์โทร-เอสเอ็มเอส ทันที ประสานตร.ไซเบอร์เอาผิดทางกฎหมาย

เมื่อวันที่ 8 เม.ย.65 นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า บริษัท เอไอเอส เปิดสายด่วน 1185 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน หรือ AIS Spam Report Center ครั้งแรกในวงการธุรกิจโทรคมนาคม อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโทรฟรี เพื่อแจ้งข้อมูลเบอร์โทรและเอสเอ็มเอสมิจฉาชีพ พร้อมดำเนินการตรวจสอบข้อมูลภายใน 72 ชั่วโมง

หากตรวจพบความผิดปกติและยืนยันได้ว่าเบอร์โทรและเอสเอ็มเอสดังกล่าว เป็นกลุ่มมิจฉาชีพจริง เอไอเอสจะบล็อกเบอร์โทรและเอสเอ็มเอสในทันที และแจ้งกลับลูกค้า พร้อมกันนี้ยังทำงานร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ เพื่อสืบสวน สอบสวน ตรวจสอบ และดำเนินการ ทางกฎหมายในการจับกุม เอาผิดกับกลุ่มมิจฉาชีพอย่างเด็ดขาด แก้ปัญหาแบบถอนรากถอนโคน

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)

“การปกป้องข้อมูลและการใช้งานของลูกค้าถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะผู้ให้บริการเครือข่าย ซึ่งที่ผ่านมาเราได้พัฒนาดิจิทัลเซอร์วิสอย่าง AIS Secure Net ที่เปิดให้บริการสำหรับลูกค้าได้ใช้งานฟรี! เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์จากการใช้งานไม่ว่าจะเป็น สแปม ฟิชชิ่ง ไวรัสต่างๆ รวมถึงบริการ Google Family Link สำหรับลูกค้าทุกเครือข่าย ที่สามารถดูแลการใช้งานโทรศัพท์มือถือของบุตรหลานให้อยู่บนความปลอดภัยและสร้างสรรค์” นายปรัธนา กล่าว

นายปรัธนา กล่าวต่อว่า จากปัญหามิจฉาชีพที่ละเมิดการใช้งานประชาชนที่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบในปัจจุบันนั้น นอกเหนือจากการทำงานร่วมกับ กสทช.ในการจัดระเบียบมิจฉาชีพที่แฝงการส่ง Spam SMS หรือ Spam โทร มารบกวนลูกค้า เพื่อปิดกั้นตั้งแต่ต้นทางแล้ว เรายังมองถึงช่องทางที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการแจ้งข้อมูล อันจะนำมาซึ่งการติดตาม ตรวจสอบ แก้ปัญหาแบบถอนรากถอนโคนอีกด้วย

ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะยืนยันถึงเจตนารมณ์ของเรา ที่จะให้เอไอเอสเป็นเครือข่ายปลอดภัยของคนไทย เราจึงเปิดตัว สายด่วน 1185 ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเบอร์โทรและเอสเอ็มเอสมิจฉาชีพ หรือ AIS Spam Report Center ให้ลูกค้าเอไอเอสสามารถโทรฟรีในรูปแบบ IVR Self Service และ AI Chatbot เพื่อแจ้งเบอร์โทรหรือเอสเอ็มเอส ที่คาดว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพ

โดยเราจะดำเนินการตรวจสอบถึงที่มา รายละเอียดการจดแจ้งลงทะเบียน รูปแบบการโทรของเบอร์ดังกล่าว ซึ่งจะบ่งชี้ได้ว่าเป็นเบอร์หรือเอสเอ็มเอสของกลุ่มมิจฉาชีพหรือไม่ หลังจากนั้นเราจะดำเนินการบล็อกเบอร์และเอสเอ็มเอสนั้นๆ โดยทันที พร้อมแจ้งกลับไปยังลูกค้าภายใน 72 ชั่วโมง

“โดยการทำงานของเอไอเอสในวันนี้ นอกเหนือจากการบล็อกเบอร์ พร้อมรายงานการแจ้งร้องเรียนของลูกค้ากลับไปยัง กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลแล้ว เรายังทำงานเชิงรุกโดยได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจาก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อกลุ่มมิจฉาชีพ

ด้วยการส่งข้อมูลของเบอร์โทร/เอสเอ็มเอส ของมิจฉาชีพไปยังตำรวจไซเบอร์ ซึ่งจะช่วยทำให้กระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจไซเบอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้” นายปรัธนา กล่าว

นายปรัธนา กล่าวด้วยว่า ปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การจะแก้ปัญหาได้นั้นนอกเหนือจากการอัพเดตเทคโนโลยีแล้ว ยังต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่จะมาทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ

รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เท่าทันให้แก่ผู้ใช้งานควบคู่กันไป การเปิดตัว AIS Spam Report Center 1185 ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรม เพราะเป็นการทำงานเชิงรุกที่มิได้มองเพียงแค่การปิดกั้นการเข้าถึงจากมิจฉาชีพเท่านั้น

แต่มองไปถึงการร่วมมือกับภาครัฐ อย่าง กสทช. และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาให้ถึงต้นตอ สร้างความเกรงกลัวให้แก่มิจฉาชีพก่อนนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย มอบความอุ่นใจจากการใช้งานบนโลกไซเบอร์ ตอกย้ำเจตนารมณ์การเป็นเครือข่ายปลอดภัยสำหรับคนไทย

ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า การที่เอไอเอสอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการแจ้งเรื่องร้องเรียนเบอร์โทรและเอสเอ็มเอสจากกลุ่มมิจฉาชีพผ่านสายด่วน 1185 ในครั้งนี้ นับว่ามีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน

รวมถึงการทำงานของเราเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้เราสามารถติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้ไปสร้างความเดือดร้อน เสียหายให้กับผู้ที่รู้ไม่เท่าทันได้อีก

แน่นอนว่าการทำงานร่วมกับเอไอเอสในครั้งนี้ สอดคล้องกับภารกิจของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีคือการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยตรง ที่มีเป้าหมายในการยับยั้งรวมถึงแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยข้อมูลที่ประชาชนได้ร้องเรียนเข้ามาผ่านสายด่วน 1185 ซึ่งเอไอเอส ได้ตรวจสอบและพบว่าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพจริง จะทำให้เราสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมายได้อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน