พนักงานออฟฟิศเตรียมตกงาน? เมื่อผู้ก่อตั้งบริษัทเมตาเวิร์สชั้นนำ กำลังผลักดันโปรเจกต์ ลั่นอีกไม่นาน เราจะสามารถใช้ AI บันทึกการประชุม -แปลบทสนทนาหลากหลายภาษาได้
ถือว่าเป็นการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ได้อย่างน่าสนใจ เมื่อ Microsoft เปิดตัว Team Premium โปรแกรมประชุมรุ่นใหม่ล่าสุดที่นำ ChatGPT มาเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การประชุมที่ดียิ่งขึ้น เช่น การสรุปอัจฉริยะ จดบันทึกการประชุมอัตโนมัติ แถมแปลภาษาสดแบบเรียลไทม์ได้มากถึง 40 ภาษา
แน่นอนว่าด้วยความสามารถของ ChatGPT ทำให้มีผู้เข้าใช้และเป็นสมาชิกอย่างรวดเร็วโดยในเวลาเพียง 2.5 เดือน มีผู้ดาวน์โหลดใช้งาน ChatGPT กว่า 1 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย
แสดงให้เห็นถึงความต้องการใช้เข้ามาช่วยในการทำงาน และการเรียนในยุคปัจจุบันมากขนาดไหน ซึ่งนับว่าเร็วมากสำหรับ Online Services ในรูปแบบเดียวกับ ChatGPT ขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนั้นมีอินสตาแกรมที่มีผู้โหลดใช้งานเร็วสุด
สำหรับ Team Premium จะขับเคลื่อนด้วยระบบประมวลผลและโมเดลภาษา GPT-3.5 Model ซึ่งอยู่เบื้องหลังความฉลาดในการตอบคำถามของ ChatGPT พร้อมกับเทคโนโลยีเดิมของ Team ที่นำไปสู่โปรแกรมการประชุมที่มีสมาร์ทฟีเจอร์จัดการงานธุรการแบบอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น
โดยสิ่งที่ไมโครซอฟท์ทำคือ การสรุปอัจฉริยะ (Intelligent recap) ที่นำความฉลาดในการจัดสรรข้อมูลของ GPT-3.5 Model มาพัฒนาเป็นระบบการบันทึกการประชุมแบบอัตโนมัติ พร้อมสรุปย่อหลังการประชุม ทำให้เราสามารถจดจ่ออยู่กับการประชุมอย่างเต็มที่ ไม่ต้องจดบันทึก
ฟีเจอร์ไฮไลต์การประชุม (Generated chapters) สามารถแบ่งช่วงการประชุมเป็นส่วนๆ ง่ายต่อการเลือกหัวข้อและเนื้อหาที่ต้องเข้าร่วม เมื่อแชร์หน้าจอหรือเมื่อผู้ใช้ออกหน้าต่างการประชุม เราสามารถย้อนกลับไปทบทวนเนื้อหาที่ตกหล่นได้อย่างสะดวก
และสิ่งที่เป็นไฮไลต์สำคัญในครั้งนี้ คือ Team Premium จะเข้ามาช่วยลดอุปสรรคด้านภาษา ด้วยการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ รองรับภาษาพูดกว่า 40 ภาษา เพียงเปิด Subtitle หรือคำบรรยาย จะอ่านคำบรรยายในภาษาของตนเองได้ทันที
นอกเหนือจากนั้น Team Premium ยังมีระบบป้องกันการประชุมขั้นสูง เพิ่มการจัดการด้านความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อยับยั้งการรั่วไหลของข้อมูลอีกด้วย
โดยสำหรับคนที่สนใจ Microsoft Teams Premium ในตอนนี้มีค่าบริการอยู่ที่เดือนละ 7 ดอลลาร์ (235 บาท) แต่จะขึ้นราคาเป็น 10 ดอลลาร์ (335 บาท) ในเดือนกรกฎาคม
ท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นเรื่องอนาคต ที่เชื่อว่าหากมนุษย์ไม่พัฒนาตนเอง อาจจะถูกแย่งงานโดย AI อย่างช่วยไม่ได้เลยทีเดียว
