หนุ่มผวาจิตตก เรียกแท็กซี่จากแอปฯ ถูกขู่ฆ่า หลังปฏิเสธไม่จ่ายค่าทางด่วน ซ้ำยังขับชนรถจักรยานยนต์ เพราะมัวเล่นแต่โทรศัพท์

เมื่อเวลา 13.30 . วันที่ 3 มิ..66 จากกรณีผู้ใช้ติ๊กต็อก @nxn.nxtthxnxn ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะเรียกใช้บริการรถผ่านแอปพลิเคชั่น BOLT ก่อนจะถูกทำร้ายร่างกาย และขู่ฆ่า หลังปฏิเสธการจ่ายค่าทางด่วน

ล่าสุด นายนนท์ ได้เปิดเผยกับข่าวสดออนไลน์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า วันเกิดเหตุ (1 มิ..66) ตนเองได้เรียกแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่น BOLT จากนั้นก็ได้มีแท็กซี่ สีเขียวเหลือง หมายเลข 1 มค 8119 กรุงเทพมหานคร เข้ามารับที่แถวรังสิต คลอง 3 แล้วมาส่งตนเองที่คอนโดเดอะเนตสุขุมวิท 71 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ซึ่งตนเองสังเกตว่าตลอดทางคนขับนั้นเล่นโทรศัพท์ตลอดเวลา โดยมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง เครื่องหนึ่งใช้ดู GPS ส่วนอีกเครื่องหนึ่งใช้คุยโทรศัพท์เรื่องค่าโดยสารในแอปฯ ทั้งนี้ตนเองไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะในขณะนั้นต้องคุยงานในโทรศัพท์ จึงไม่ได้ดูทาง

อย่างไรก็ตาม ปกติตนเองจะเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปฯ BOLT ตลอดเนื่องจากราคาที่ค่อนข้างถูกกว่า แอปฯ GRAB ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยพบปัญหาอะไร รวมถึงการขึ้นทางด่วน คนขับแท็กซี่ทุกคันที่ผ่านมามักจะถามตนเองก่อนเสมอว่า จะขึ้นทางด่วนหรือไม่ แต่แท็กซี่คันดังกล่าวไม่ได้ถาม รู้ตัวอีกทีก็กำลังจะจ่ายค่าทางด่วนแล้ว

ซึ่งตนเองจะบอกไม่ขึ้นก็ไม่ได้ และในตอนแรกตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร ยอมจ่ายได้ แต่หลังจากลงจากทางด่วนบริเวณถนนสุขุมวิท ในตอนนั้นรถค่อนข้างติด ก่อนจะได้ยินเสียงดัง พร้อมกับตัวรถสะเทือน เหมือนโดนแรงกระแทก เมื่อเงยหน้าขึ้นมาดู ก็พบว่าชนกับรถจักรยานยนต์ ​เนื่องจากว่าคนขับเริ่มมีอาการหัวร้อน อีกทั้งบีบแตรเสียงดังมาก

ก่อนที่เหยียบคันเร่งตามรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไป ก่อนที่คนขับรถจักรยานยนต์จะหันมายกมือไหว้และขอโทษ แต่ตนเองก็ยังใจเย็น คิดว่ารถคงเยอะ อาจเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แต่ก็ยังไม่จบ เพราะคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวก็เกือบที่จะชนกับรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งอีกแล้ว

จากนั้นเมื่อใกล้ถึงบริเวณสี่แยก คนขับแท็กซี่จึงถามว่าเลี้ยวตรงนี้หรือเปล่าน้องตนเองจึงบอกว่ารบกวนพี่ดู GPS ในแอปฯ ได้มั้ยครับ พอดีผมเพิ่งย้ายมาอยู่ ไม่ค่อยชำนาญทางเหมือนกันครับจากนั้นคนขับแท็กซี่ก็เริ่มมีอาการหัวร้อนอีกครั้ง ต่อมาพอมาถึงทางเลี้ยวเข้าซอยคอนโดฯ ตนเองก็รีบทักท้วงทันที เพราะเหมือนคนขับแท็กซี่จะขับเลยทาง ​เมื่อมาถึงหน้าคอนโดฯ ​ก็เลยทางเข้าอีก ตนเองจึงบอกว่าพี่ครับ เลยคอนโดฯ แล้วนะ พี่ไม่ได้ดูชื่อคอนโดในแอปฯ เลยเหรอครับ

ก่อนที่จะได้รับคำตอบว่าผมอ่านไม่ออกหรอกครับ ผมเป็นคนไทย ในแอปฯมันเป็นภาษาอังกฤษจากนั้นตนเองจึงบอกให้เขาเลี้ยวเข้าคอนโดฯ และบอกว่าตนเองไม่โอเคตั้งแต่ขับรถชนแล้ว ไม่พอยังมัวแต่เล่นโทรศัพท์อีก ซึ่งทางคนขับก็รีบปฏิเสธเสียงแข็งทันทีว่าชนอะไร ไม่ได้ชนตนเองจึงบอกว่าชนครับ ไม่งั้นรถมันจะกระแทกกับอะไร

จากนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่องเป็นแจ้งค่าโดยสาร 387 บาท และค่าทางด่วน 110 บาท ตนเองจึงโอนค่าโดยสารไป พร้อมบอกว่า ค่าทางด่วนตนเองขออนุญาตไม่จ่าย เพราะไม่ได้มีการถามก่อน จากนั้นสีหน้าเขาก็เริ่มเปลี่ยน พร้อมถามว่าจะจ่ายมั้ยก่อนที่ตนเองจจะตอบกลับไปว่าไม่จ่ายครับ จริง ๆ ตนเองยินดีจ่ายค่าทางด่วน หากพี่ขับรถดี ไม่เล่นโทรศัพท์ ไม่ชนนู่นชนนี่ ซึ่งมันหลายครั้ง รับผู้โดยสารมาพี่ต้องรับผิดชอบชีวิตเขาด้วย

จากนั้นเขาถามย้ำอีกรอบว่าจะจ่ายมั้ย ตนเองก็ตอบกลับไปเช่นเดิมว่าไม่จ่ายก่อนที่เขาจะกระชากคอเสื้อ และด้วยความที่ตอนนั้นตนเองกลัวเสื้อขาด จึงดึงมือเขากลับ และใช้มืออีกข้างหนึ่งปลดล็อกประตูรถ ก่อนที่เขาจะใช้มือหยิกแขนตนเองไว้ จนเป็นรอยแผล ตนเองจึงร้องขอความช่วยเหลือจาก รปภ. ของคอนโดฯ จากนั้นเขาก็เดินลงมาจากรถ และจะเข้ามาต่อย แต่โชคดีที่ รปภ. ช่วยห้ามเอาไว้ได้

ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาว่ากูขับ BOLT มานาน ไม่เคยมีลูกค้าคนไหนเรื่องมากเท่ามึงเลย มีมึงคนแรกนี่แหละ ก่อนจะขู่ว่ามึงระวังตัวไว้นะ กูขอให้มึงตาย กูรู้ที่อยู่มึงแล้วซึ่งในระหว่างนั้นก็มีการถามถึงค่าทางด่วน และจะปรี่เข้ามาต่อยอยู่ตลอด

เบื้องต้นตนเองได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.พระโขนงแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะนำใบแจ้งความและใบรับรองแพทย์ไปขอภาพวงจรปิดจากทางนิติคอนโดฯ เพื่อดำเนินคดีกับคนขับแท็กซี่รายดังกล่าวให้ถึงที่สุด พร้อมบอกว่าตนเองรู้สึกตกใจมาก ตอนนี้กลายเป็นคนจิตตกไปแล้ว เดินไปไหนก็รู้สึกผวาหลังตลอดเวลา และยังไม่กล้านอนที่คอนโดฯ คนเดียวเนื่องจากกลัวว่าจะถูกลอบทำร้าย อย่างไรก็ตามตนเองคงจะเปลี่ยนไปใช้แอปฯ อื่น เนื่องจากกลัวว่าจะเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน