ย้อนเส้นทางตำรวจ 30 ปี ‘บิ๊กโจ๊ก’ เจอสารพัดมรสุม สู่คำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน เซ่นปมคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

ข่าวร้อนวงการสีกากี ทันทีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. ลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธตอบคำถามกรณีดังกล่าว โดยย้ำว่าให้ไปสอบถามกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

สำหรับประวัติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก เกิดเมื่อ 29 ต.ค.2513 ที่ จ.สงขลา เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) รุ่นที่ 31 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 47 เป็นประธานรุ่น นรต.47

เส้นทางการทำงานของ ร.ต.ต.สุรเชษฐ์ เป็นรองสารวัตร เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2537 เป็นรองสารวัตรได้ 6 ปี 1 เดือน ขึ้นเป็นสารวัตร และเป็นสารวัตรได้ 4 ปี 8 เดือน ขยับเป็นรองผู้กำกับการ เป็นรองผู้กำกับการอยู่ 4 ปี จากนั้นขยับเป็นผู้กำกับการ ติดยศ พ.ต.อ. เป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา โรงพักเกรดเอ โดยขณะนั้น พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9)

พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้กำกับการอยู่ได้ 4 ปี 1 เดือน จึงขยับเป็นรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ได้เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และยังเป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.สงขลา ส่วนหน้า ดูแลพื้นที่ อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา จ.สงขลา 4 อำเภอพื้นที่สีแดงในพื้นที่ต่อเนื่องจังหวัดชายแดนใต้ การอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รับสิทธินับอายุราชการแบบทวีคูณ แม้อายุยังน้อยแต่อายุงานเพิ่มความอาวุโส ทำให้ก้าวขึ้นเป็น พล.ต.ต. ขณะอายุไม่ถึง 45 ปี

23 ก.ค.2558 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้เป็นผู้บังคับการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าประสานนายกรัฐมนตรี ในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานใกล้ชิด บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ในปี 2558

กระทั่งปี 2559 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 และปี 2560 ซึ่งอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 76 ได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ขึ้นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และโยกมานั่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) และในที่สุดขยับขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการอายุน้อย ติดยศ พล.ต.ท. ด้วยวัยเพียง 48 ปี เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการสีกากี








Advertisement

“บิ๊กโจ๊ก” กลายเป็นนายตำรวจหนุ่มเนื้อหอมและถูกกล่าวถึงมากที่สุด ในวงการรู้ดีว่าเป็นผู้ใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” และบทบาทหน้าที่ค่อนข้างโดดเด่น แต่เส้นทางบนถนนสีกากีต้องมาสะดุดลง โดยเมื่อ 6 เม.ย.2562 ถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม

กระทั่งวันที่ 9 เม.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สบ 9 ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร และ รองผบ.ตร. ตามลำดับ

ทั้งนี้ บิ๊กโจ๊ก ได้ดูแลคดีดังมากมาย ทั้งคดีเว็บพนันใหญ่ และทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งล่าสุดยังเข้ามาดูแลทำคดีกำนันนก ซึ่งเกี่ยวโยงกับหลายขบวนการด้วย ก่อนช็อกวงการกับเหตุการณ์ถูกบุกค้นบ้านเมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ก.ย. 2566 จนนำมาสู่การถูกดำเนินคดี ในคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน