ด่วน! อัยการเบรกออกหมายจับ หม่องชิตตู และพวกอีก 2 คน ชี้หลักฐานไม่เพียงพอ พร้อมให้ดีเอสไอไปสอบสวนหาพยานหลักฐานมาเพิ่มเติม

12 ก.พ. 2568 จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำหลักฐานคดีค้ามนุษย์เข้าพบพนักงานอัยการ สำนักคดีค้ามนุษย์ เพื่อหารือในประเด็นข้อกฎหมายในการออกหมายจับ ผู้พันเอก ซอชิตตู หรือ หม่องชิตตู, พันโทโมเตโธน และ พันตรีทินวิน ผู้นำกองกำลัง BGF หรือผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยง กองกำลังสำคัญปกครองเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ในคดีค้ามนุษย์ชาวอินเดีย

โดยกล่าวหาว่าทั้ง 3 คน มีส่วนเกี่ยวข้องผู้เสียหายเป็นชาวอินเดีย 8 คน ถูกหลอกโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปเมียวดี คล้ายกรณี “หวังซิง” นักแสดงชาวจีน จึงควรออกหมายจับนั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบของพนักงานอัยการ มีความเห็นว่าพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ให้ดีเอสไอไปสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่ม และยังไม่ควรเสนอศาลออกหมายจับ ทั้งนี้คดีดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร อัยการรวมทีมสอบสวนกับดีเอสไอด้วยด้วย

ทั้งนี้คดีดังกล่าว จุดเริ่มต้นมาจากวันที่ 15 พ.ค. – 13 ส.ค. 2565 ผู้เสียหายชาวอินเดีย ประกอบด้วย นายจาเวิด อาวาวัสลี กับพวก รวม 8 คน ได้รับการชักชวนจาก นางซาร่า ชาวปากีสถาน ให้มาทำงานเกี่ยวกับเทเลมาร์เก็ตติงที่ประเทศไทย

ผู้เสียหายได้เดินทางมาประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ ต่อมาได้เดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นมีรถยนต์มารับ ก่อนจะถูกพาข้ามแม่น้ำเมยตัวไปยัง เฮ็งเซ็ง รีสอร์ต แอนด์ กาสิโน เมืองเมียวดี

ในรายงานของพนักงานสอบสวน ระบุว่า เมื่อผู้เสียหายทราบว่าเป็นงานคอลเซ็นเตอร์หลอกหลวงจึงไม่ยอม จนถูกบังคับให้ทำงานโดยการทำร้ายร่างกาย ชอร์ตด้วยไฟฟ้าและถูกขัง กระทั่งผู้เสียหายได้ให้ญาติโอนเงินไถ่ตัว จึงถูกปล่อยตัวในที่สุด และได้รับการช่วยเหลือจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน