หลังจากสหพันธ์ ยกน้ำหนัก โลก (ไอดับเบิ้ลยูเอฟ) รายงานผลการตรวจสอบสารกระตุ้นของนักกีฬาที่เข้าแข่งขันในยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกเมื่อปีก่อน และพบว่า มีนักยกน้ำหนักทีมชาติไทยถึง 4 ราย รวมถึง โสภิตา ธนสาร และ สุกัญญา ศรีสุราช มีชื่ออยู่ด้วย

และอาจจะส่งกระทบร้ายแรงที่ ยกน้ำหนักไทย อาจจะถูกแบนเข้ารวมแข่งขันในระดับนานาชาติ 4 ปี โดยเฉพาะการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียว นอกจากนี้ยังส่งผลต่อภาพรวมของกีฬายกน้ำหนัก ที่อาจจะหลุดออกจากโอลิมปิกเกมส์ 2024 เนื่องจาก ไม่สามารถแก้ไขปัญหาการใช้สารกระตุ้นได้ และก่อนหน้านี้มีชาติชั้นนำทะยอยถูกแบนหลายประเทศ
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

อ่าน – สั่นสะเทือน ยกน้ำหนัก ส่อโดนแบนหนัก – เสียสิทธิ์เจ้าภาพชิงแชมป์โลกเซ่นโด๊ป

อ่าน – สหพันธ์ ยกน้ำหนัก โลก เผยชื่อจอมพลังไทยไม่ผ่านโด๊ป ส่อโดนแบนหนัก

ล่าสุด พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย ในฐานะนายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมกรณี สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่ได้รับแจ้งจากสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ว่านักกีฬาไทยพบสารต้องห้ามในตัวอย่างปัสสาวะว่า สมาคมฯ ที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวน หาข้อเท็จจริง กับนักกีฬา และผู้เกี่ยวข้อง ขั้นตอนนี้ยังเดินหน้าต่อไป และตัวอย่างสารต้องห้ามที่พบในปัสสาวะนักกีฬา ยังเป็นตัวอย่างเอ และฮอร์โมนของนักกีฬา ไม่ได้สูงมากตามระบบตรวจใหม่ ซึ่งทั้งการตรวจสอบภายในของเรา และการตรวจของสหพันธ์ ในตัวอย่างบี ยังต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 8 เดือน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็จะได้แจ้งให้สหพันธ์ฯ และคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี รับทราบต่อไป

“สมาคมฯ เดินหน้าทั้งการสอบสวน และการเตรียมนักกีฬา แน่นอนว่านักกีฬาทีมชาติที่อยู่ในข่ายของเรื่องดังกล่าว ต้องกลับคืนสู่ต้นสังกัดไปก่อนตามกติกา ไม่น่าจะทันต่อการคัดเลือกไปโอลิมปิก 2020 แผนของสมาคมฯ คือ การใช้นักกีฬาคนอื่นที่มีศักยภาพไม่แพ้กัน ในการเก็บคะแนนคัดเลือกไปโตเกียวเกมส์แทน ส่วนสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพจัดศึกชิงชนะเลิศแห่งโลก 2019 เดือนก.ย.นี้ ที่ไทย สหพันธ์ฯ ยืนยันว่าไทยยังได้สิทธิ์ตามเดิมต่อไป” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน