ผีแดง สร้างปาฏิหาริย์จากที่แพ้ เปแอสเช คารังในนัดแรก 0-2 มาชนะเกมนอกบ้าน 3-1 ทำให้สกอร์รวมเสมอกัน แต่พลิกเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือนแบบเหลือเชื่อ

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ของฝรั่งเศส เปิดสนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ รับการมาเยือนของ “ผีแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ นัดแรกเปแอสเชชนะมาก่อน 2-0

เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง อังเคล ดิ มาเรีย ลงเจอทีมเก่า ผนึกกำลังร่วมกับ คีลิย็อง เอ็มบัปเป, ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ ส่วนทีมเยือนมี โรเมลู ลูกากู, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อันเดรียส เปเรรา เป็นตัวจริง

เริ่มเกมมาแค่ 2 นาที ธิโล เคห์เลอร์ จ่ายบอลคืนหลังพลาดเลยถูก โรเมลู ลูกากู ฉกได้แล้วบรรจงพาเข้าไปเลี้ยงหลบนายทวาร ก่อนล้มตัวกวาดบอลสู่ประตูที่ว่างเปล่า แมนฯยูไนเต็ดออกนำ 1-0

นาที 12 คีลิย็อง เอ็มบัปเป สปีดหลุดเข้าไปทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนเปิดเรียดไปเสาสองให้ ฆวน เบร์นาร์ด เติมมากดเผาขนไม่เหลือ สกอร์จึงเสมอกัน 1-1

นาที 30 แฟนบอลเจ้าถิ่นต้องเงียบอีกครั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ตัดสินใจยิงไกลแล้วบอลกระดอนพื้นจนทำให้ จานลุยจิ บุฟฟอน รับกระฉอกทั้งที่มาตรงตัว โรเมลู ลูกากู ไวทายาดตามซ้ำเข้าไป แมนฯยูไนเต็ดนำอีกรอบ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 56 เปแอสเชเกือบตีเสมอ คีลิย็อง เอ็มบัปเป ตอกส้นให้ อังเคล ดิ มาเรีย หลุดเข้าเขตโทษแล้วชิพข้ามหัวนายทวารเข้าไป แต่ผู้กำกับเส้นยงธงล้ำหน้าแล้ว

นาที 84 เจ้าถิ่นยังตีเสมอไม่สำเร็จ คีลิย็อง เอ็มบัปเป หลุดเดี่ยวเข้าไปจะแตะหลบนายทวารแต่โดนดักได้ บอลมาเข้าทาง ฆวน เบร์นาร์ด ยิงมุมแคบแต่ไปชนเสาเสียอีก

นาที 90 เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น ดิโอโก ดาโลต์ ยิงไกลแฉลบ เปรสเนล คิมเปมเบ ออกหลังไป แต่ผู้ตัดสินขอดูวีเออาร์แล้วเป่าให้แมนฯยูไนเต็ดได้จุดโทษ เนื่องจากมองว่าบอลที่แฉลบแขนคิมเปมเบถือเป็นการแฮนด์บอล และจังหวะนั้นเจ้าตัวอยู่ในเขตโทษพอดี

ผู้รับหน้าที่สังหารเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งเจ้าตัวกดเต็มเหนี่ยวผ่านมือนายทวารตุงตาข่าย ทำให้แมนฯยูไนเต็ดออกนำ 3-1 สกอร์รวมตอนนี้เท่ากัน แต่ฝั่ง “ผีแดง” ได้เปรียบกฎประตูทีมเยือน

จากนั้นเปแอสเชพยายามเดินเกมบุกหวังยิงคืน ทว่าแมนฯยูไนเต็ดต้านทานไว้ได้หมด จบเกม “ผีแดง” จึงบุกมาชนะ 3-1 สกอร์รวม 2 นัดเสมอกัน 3-3 แต่แมนฯยูไนเต็ดเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือนแบบเหลือเชื่อ

ส่วนอีกคู่ ปอร์โต จากโปรตุเกส เอาชนะ “หมาป่า”โรมา จากอิตาลี 2-1 ทำให้สกอร์รวมเสมอกัน 3-3 ต้่องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที เป็นเจ้าถิ่นกดเพิ่มอีกลูกทำให้ชนะไป 3-1 ปอร์โตจึงเข้ารอบสกอร์รวม 4-3

โดยเจ้าถิ่นได้จาก ติกินโญ นาที 26, มุสซา มาเรกา นาที 52, อเล็กซ์ เตลเลส นาที 117(จุดโทษ) ส่วนทีมเยือนได้จาก ดานิเอเล เด รอสซี นาที 37(จุดโทษ)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน