สมาคมบอล ออกโรงแถลงการปกป้องการทำหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบผู้ตัดสิน ยืนยันชัดเจนมีหน่วยงานรับผิดชอบ ไม่ปล่อยปละละเว้นการทำงานพลาด หากผิดจริงพร้อมมีบทลงโทษทุกคน แนะผู้เสียหายร้องเรียนได้เสมอยินดีรับฟังและชี้แจง

สมาคมบอล ออกการป้องการทำหน้าที่ผู้ตัดสินจากกรณีที่ “มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร “สิงห์เจ้าท่า”การท่าเรือ เอฟซี ได้ยื่นหนังสือถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถึงการทำหน้าที่ผู้ตัดสินในเกมที่การท่าเรือ ออกไปแพ้สุโขทัย เอฟซี เมื่อ 30 มี.ค.

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดเมื่อ 3 เม.ย. พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการชี้แจงพร้อมกล่าวปกป้องภาพลักษณ์ของสมาคมในเรื่องการพัฒนาผู้ตัดสิน

พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า “ความจริงการแถลงข่าววันนี้ ตัวของท่านนายกสมาคมต้องการแถลงด้วยตัวของท่านเอง แต่เนื่องจากท่านติดภารกิจศึกษางานกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ประเทศญี่ปุ่น การแถลงข่าวในครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะแก้ตัว หาข้ออ้าง หรือกล่าวหาใคร แต่เรามีประสงค์ที่จะทำความเข้าใจต่อสาธารณชนว่าที่ผ่านมาสมาคมถูกกล่าวหาเป็นอย่างมากในส่วนของผู้ตัดสิน ทั้งเรื่องความไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม หรือล้มบอล ผมในฐานะโฆษกสมาคมต้องขอทำความเข้าใจทั้งหมด 3-4 ประเด็น”

“ประเด็นแรกที่ถูกกล่าวหาคือฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินสมาคมไร้มาตรฐาน ไม่มีศักยภาพ รวมถึงทุจริต ผมยืนยันว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยุคนี้ถือเป็นยุคแรกที่ได้มีการดำเนินคดีเรื่องการล้มบอล และกำลังสืบสวนเรื่องนี้ต่อไป ส่วนของมาตรฐานการฝึกอบรม สมาคมได้มีการจัดการอบรมอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมาเรามีการอบรมผู้ตัดสินทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ กว่า 18 โครงการ และปีนี้เรามีแผนการอบรมวางไว้แล้วทั้งหมด 15 โครงการ”

“ส่วนของคณะกรรมการพิจารณาวินัยผู้ตัดสิน เรามี ผศ.ดร.ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ ซึ่งถือเป็นผู้ตัดสินคนเดียวที่เคยไปทำหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอลโลก และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เราไม่เคยปล่อยปละละเลยกับการตัดสินพลาดของผู้ตัดสิน ซึ่งเรามีการพิจารณามาอย่างต่อเนื่อง การทำงานของคณะกรรมการพิจารณาวินัยผู้ตัดสิน จะพิจารณาบทลงโทษต่อผู้ตัดสินที่ทำผิดพลาด ซึ่งเมื่อมีกรณีที่เกิดความผิดพลาด และมีผู้ร้องเรียน ทางเราจะเชิญผู้ร้องเรียน มาร่วมฟังการชี้แจงจากคณะดังกล่าว เพื่อฟังคำอธิบายให้เข้าใจ ซึ่งหากผู้ตัดสินมีการตัดสินที่ผิดพลาดเราจะลงโทษตามกรณี”

“ที่ผ่านมามีบางส่วนเรียกร้องให้ใช้ VAR ซึ่งเราได้ชี้แจงไปแล้วว่าสมาคมได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นชาติแรกในอาเซียน เรามีความต้องการใช้ในไทยลีก เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสิน และลดความผิดพลาดให้น้อยลง แต่หลังจากที่เราทดลองใช้ทุกสนามในลีกสูงสุด แต่พบว่าบางสนามไม่เหมาะสมในการวางตำแหน่งกล้อง เราจึงทำหนังสือแจ้งไปยังสโมสร ในช่วงนี้เราต้องงดใช้ VAR ชั่วคราว เพื่อให้สโมสรสมาชิกที่มีปัญหาเรื่องสภาพสนามต้องปรับเปลี่ยน เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดตั้งกล้องตามมาตรฐานของฟีฟ่า และจะมีการอบรมให้ความรู้แก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง และจะดำเนินการใช้ต่อเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย”

“การแข่งขันกีฬาฟุตบอลเป็นปกติที่จะมีผู้ชนะ ผู้แพ้ ซึ่งจะสร้างความไม่พึงพอใจให้กับผู้แพ้บ้าง และผู้แพ้บางคนก็มักจะมาลงที่ผู้ตัดสิน ว่าไม่มีความเป็นกลาง ผู้ชนะพอใจ ชมผู้ตัดสิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติ แต่มันไม่ถูกต้อง เราต้องยอมรับความเป็นจริงและมีสปิริต”

“สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีความตั้งใจที่จะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในทุกด้าน อย่างที่ทางนายกสมาคมได้เดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อศึกษาเรื่องการสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอล โดยศูนย์ฝึกจะต้องมีหอพัก สนามแข่งขันหลายสนาม และในช่วงที่ผ่านมา เราได้มีการเซ็นบันทึกข้อตกลงกับทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี”

“ตอนนี้เราได้สถานที่ที่มวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ที่มีพื้นที่หลายพันไร่ มีอาคารต่างๆ ทำให้เราต้องไปดูงานที่ญี่ปุ่น เพื่อนำข้อมูลกลับมาทำ เรามีการพัฒนาทางด้านกายภาพ กฎระเบียบ และเทคโนโลยีที่นำมาใช้อย่างต่อเนื่อง สมาคมได้มีการพัฒนากีฬาฟุตบอลตามลำดับ และเข้มข้นต่อไป เราไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของสมาคมเสื่อมถอย ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดเรามีหลักฐานยืนยันได้ เราไม่มีเจตนาตอบโต้ หรือให้ร้าย เพียงแต่ต้องการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องให้กับสังคมเท่านั้น”

 

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน