(5 ก.ค.62) ชื่อของ “เดอะ ด็อกเตอร์” จอร์จิโอ เปโตรเซียน ตอนนี้แฟนหมัดมวยชาวไทยคุ้นหูกันดีว่าเขาคือนักชกเจ้าตำนานคิกบ็อกซิ่งระดับตัวพ่อของโลก ที่กำลังจะมีนัดชี้ชะตากับ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี่” โดยเป็นคู่เอกของรายการ ONE: MASTERS OF DESTINY ในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แต่ไม่น่าเชื่อว่านักชกที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของโลกจะเคยคิดสั้นแขวนนวมตัดอนาคตทางอาชีพของตัวเองมาแล้ว

ครั้งหนึ่ง เปโตรเซียน เคยอยู่ในช่วงขาลงสุดขีดของชีวิตนักชกอาชีพ หลังจากพบกับความพ่ายแพ้ครั้งที่ 2 ในชีวิตด้วยการถูกน็อกเอาต์ ซึ่งเขายอมรับว่ามันยากที่จะรับมือกับความรู้สึกในตอนนั้น

“สำหรับคนที่เคยชินกับการได้รับชัยชนะมาตลอดอย่างผม แน่นอนผมไม่ต้องการที่จะแพ้อยู่แล้ว ซึ่งครั้งนั้นผมชกกับ แอนดี้ ริสตี ในปี 2013 ที่เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น ในกรุงนิวยอร์ก ผมไม่ได้แพ้ในเกมเท่านั้น กระดูกมือผมร้าว แล้วยังต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่ตามมามากมาย ผมพบว่าตัวเองไม่อาจรับมือกับปัญหาเหล่านั้นได้”

แม้แชมป์ K-1 World Max สองสมัยผู้นี้จะเคยรู้จักคำว่าพ่ายแพ้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่กับครั้งที่สองนี้มันกระทบกระเทือนจิตใจเขาอย่างหนัก และมันทำให้เขาเกิดความกังขาว่า เขายังจะยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดต่อไปได้หรือไม่

ซ้ำร้ายอาการบาดเจ็บที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานก็ยิ่งตอกย้ำให้ “เดอะ ด็อกเตอร์” ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เขายังมีใจกลับไปสู้บนสังเวียนได้อีกไหม

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ตอนนั้นใครต่อใครพากันบอกว่า จอร์จิโอไปต่อไม่ไหวแล้ว เขาจบแล้ว มือพังแบบนี้จะชกต่อได้ไง เขาโดนน็อกไปแล้ว เสียตำแหน่งไปแล้ว หมดทั้งร่างกายและจิตใจ”

“ช่วงนั้นความคิดเรื่องแขวนนวมวนเวียนซ้ำๆ ในหัวผมอย่างกับคำสาป จนผมหลับไม่ลง โฟกัสกับการฝึกซ้อมไม่ได้ และความหลงใหลที่มีต่อการชกมวยของผมก็จางหายไป สิ่งที่สำคัญและงดงามที่สุดที่เคยเกิดขึ้น กลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ผมข้ามผ่านปีนั้นอย่างแสนลำบาก ซ้อมไม่ได้ ไม่มีสมาธิ แม้ใจผมอยากจะกลับไปชก แต่สติของผมมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”

“ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังอยากกลับไปชกและทำตัวให้เหมือนคนอื่นๆ ที่เคยตกอยู่ในฐานะผู้แพ้มาก่อน ผมนึกถึงคนเหล่านั้นแล้วถามตัวเองว่า เขาแพ้บ้าง ชนะบ้าง เขายังมีใจกลับมาลุยต่อได้ แล้วทำไมคนที่เพิ่งแพ้แค่สองครั้งอย่างผม ถึงได้ใจเสาะ ล้มแล้วไม่ยอมลุกแบบนี้”

เปโตรเซียนเก็บตัวมาตลอดปี 2014 เขารู้แก่ใจว่าถ้าอยากกลับไปครองตำแหน่งเจ้าสังเวียนที่ทุ่มเทมาเกือบทั้งชีวิต เขาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ เขาจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่มิลาน ที่ซึ่งเขาได้ร่วมทีมกับโค้ชคนใหม่และเปิดยิมของตัวเอง การพาตัวเองออกจาก “คอมฟอร์ตโซน” ที่ทำให้รู้สึกตัวเองอุ่นใจ ด้วยการย้ายมาอยู่เมืองใหม่ที่ไม่คุ้นเคย เป็นการสร้างแรงกระตุ้นตัวเองเพื่อปูทางสู่การหวนคืนวงการ

“ผมเอาตัวเองออกจากภาวะนั้น ด้วยการย้ายไปอยู่ที่ใหม่คือที่มิลาน ซึ่งผมและพี่ชายช่วยกันสร้างโรงยิมขึ้นมา ที่นั่นผมได้เจอโค้ชคนใหม่ แอร์เมส ดี ฟรานเชสกา ผู้สร้างขวัญกำลังใจให้ผมกลับมาเริ่มต้นใหม่อย่างสดใส ผมยังได้ผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือในหลายเรื่อง อีกทั้งครอบครัวผมเองก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน และนั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ”

เปโตรเซียนหวนคืนสังเวียนในเดือนมกราคม 2015 และพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังคงรักษาฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม เขาเผชิญหน้ากับนักชกคิกบ็อกซิ่งชั้นแนวหน้าของโลกหลายคน โดยสยบคู่แข่งขันได้ทั้งหมด และคว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาครองได้อีก 4 ครั้ง

“หลังจากได้พักฟื้นหนึ่งปีเต็มและรับการผ่าตัดครั้งสำคัญ ผมก็กลับสู่วงการด้วยความแข็งแกร่งกว่าเดิม ตอนนี้ผมฟิตเต็มร้อยทั้งกายและใจ”

“ผมฟื้นตัวจากความสูญเสียราวกับนกฟินิกซ์ ผมได้เรียนรู้ว่าหากใจคุณแกร่งพอ คุณก็จะฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง แถมยังแข็งแกร่งกว่าเดิมอีกด้วย”

ชีวิตของ เปโตรเซียน ก็คล้ายกับแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่หลายคนที่ต้องเรียนรู้การก้าวข้ามความปราชัย และฟื้นความกระหายต่อความสำเร็จ จอมหมัดวัย 33 ปีได้ล้างข้อกังขาต่างๆ ด้วยความสำเร็จ ยิ่งสั่งสมชัยชนะ ความมั่นใจของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

อ่าน – เสี่ยโบ๊ท เผย เพชรมรกต ซ้อมน้อยแต่สู้ไม่ถอย แพ้ชนะต้องสมศักดิ์ศรีที่สุด

ในปี 2018 เขาได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมเป็นนักกีฬาแข่งขันกับเหล่านักสู้ชั้นนำระดับโลกในรายการ ONE Championship ในฐานะนักชกคิกบ็อกซิ่งที่เก่งกาจที่สุดในโลกเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ และตลอดการแข่งขันทั้งชีวิตเขาเคยพ่ายแพ้เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นในจำนวนทั้งหมด 105 ไฟต์

ในวันนี้เขาพร้อมแล้วสำหรับการเผชิญหน้าเป็นครั้งที่สองกับนักชกไทย “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี่” ในรอบก่อนรองชนะเลิศในการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต “เดอะ ด็อกเตอร์” มองว่าความพ่ายแพ้ในครั้งแรกเป็นเพราะการตัดสินที่ผิดพลาด ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของเขาที่จะแสดงให้โลกเห็นสิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุด และตระหนักว่าใครที่สมควรเป็นผู้ชนะ

เปโตรเซียน ไม่มีความกังขาเลยแม้แต่น้อยว่าเขาจะเป็นผู้ได้รับการชูมือในศึก ONE: MASTERS OF DESTINY วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และต่อจากนั้นเขาจะมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางของการเป็นแชมป์ในทัวร์นาเมนต์นี้ และคว้าเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 31 ล้านบาท) พร้อมนั่งบัลลังก์ “นักชกคิกบ็อกซิ่งที่เก่งกาจที่สุดของโลก” โดยอัตโนมัติ

ศึกนี้รับประกันความมันเร้าใจ ชาวไทยต้องไม่พลาดเชียร์ทางแอปพลิเคชัน ONE Super App ถ่ายทอดสดคู่แรกตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน