นายเกียรติศักดิ์ ช่วยสกุลผู้ชนะเลิศการประกวด ตราสัญลักษณ์เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจและสิทธิประโยชน์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยใช้เวลานานกว่า 1 เดือน ผ่านการทำมากกว่า 100 ชิ้นงานกว่าจะมาเป็น SAT POWER

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่บริเวณโถงชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “การประกวดตราสัญลักษณ์เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจและสิทธิประโยชน์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย” โดยมี, พันโท รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์, นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายส่งเสริมกีฬา, ผู้บริหาร, พนักงาน และผู้ช่วยปฏิบัติงาน กกท. ร่วมงาน

SAT POWER

สำหรับการประกวด ตราสัญลักษณ์เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจและสิทธิประโยชน์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งนี้ มีผู้ให้ความสนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดมากถึง 352 ชิ้นงาน โดย กกท.ได้เชิญชวนคนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปร่วมแสดงความคิดสร้างสรรค์ และความรู้ความสามารถในการออกแบบตราสัญลักษณ์ให้กับการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเปิดให้ผู้สนใจร่วมส่งผลงานเข้าประกวด ระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่ง นายเกียรติศักดิ์ ช่วยสกุล อายุ 39 ปี เจ้าของผลงานชื่อ SAT POWER (แซท พาวเวอร์) เป็นผู้ชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้ พร้อมรับเงินรางวัล 50,000 บาท

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า การประกวดตราสัญลักษณ์เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจและสิทธิประโยชน์ของการกีฬาแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ มีความมุ่งหวังที่จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการมีส่วนร่วมของประชาชนกับวงการกีฬาไทย โดยการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ให้ตรงกับตัวตนของการกีฬาแห่งประเทศไทยในรูปแบบที่ทันสมัย กิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนและคนรุ่นใหม่หลากหลาย เพศ อายุ อาชีพ โดยการตัดสินผลงานได้มีการเชิญคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการออกแบบ และตัวแทนจากการกีฬาแห่ง ประเทศไทยเข้าร่วมคัดเลือกและมีการตัดสินให้ผลงานของ นายเกียรติศักดิ์ ช่วยสกุล อายุ 39 ปี เจ้าของผลงานชื่อ SAT POWER (แซท พาวเวอร์) เป็นผู้ชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้ ซึ่งสามารถสื่อสารชิ้นงานได้อย่างชัดเจน ทันสมัย แสดงออกได้ อย่างสร้างสรรค์และลงตัว”

“ในส่วนตราสัญลักษณ์นี้จะยังไม่ถูกนำไปใช้อย่างเป็นทางการ จะต้องผ่านกระบวนการในการพัฒนารูปแบบก่อนการนำไปใช้จริงในการสนับสนุนกีฬาต่างๆ ซึ่งจะปรากฏเป็นเหมือนเครื่องหมายการันตีคุณภาพการแข่งขัน, การกีฬา หรือกิจกรรมในเชิงสร้างสรรค์ในระดับนานาชาติต่อไป”

ด้าน นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ในการส่งผลงานเข้าประกวดได้ผ่านขั้นตอนการออกแบบ ซึ่งต้องทำมากกว่า 100 ภาพ ใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลองค์กร และออกแบบชิ้นงานกว่า 1 เดือน กว่าจะได้เพียง 1 ภาพที่สื่อถึงความหมายได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะคำนึงถึงความเรียบง่าย, ทันสมัย และสื่อถึงองค์กรได้อย่างชัดเจนเป็นหลักสำคัญ

“3 ห่วง สีแดงหมายถึงพลัง สีน้ำเงินหมายถึงความมั่นคงสง่างาม สปิริต สีเหลืองทองหมายถึงการบรรลุเป้าหมายและชัยชนะในการแข่งขัน ช้างชูงวง หมายถึงความแข็งแกร่งและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ส่วน อักษร S (Sports) เป็นรูปนักกีฬาหมายถึงการสนับสนุนในการขับเคลื่อนและพัฒนาในวงการกีฬาทุกมิติ ตราสัญลักษณ์มีลักษณะการตวัดประสาน หมายถึงพลังแห่งความสามัคคี ความมุ่งมั่นพัฒนาสู่ความสำเร็จ ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องตลอดไปอย่างยั่งยืน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน