เมืองไทย ยอมห่างลูกช่วงปีใหม่ ทุ่มสุดตัวรับมือนักชกเสาโทรเลข

เมืองไทย – แม้จะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งนักชกตัวท็อประดับประเทศ สำหรับเมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” แต่เมื่อคิวชกครั้งต่อไปรู้ว่าจะต้องเจอกับคู่ต่อกรที่ได้เปรียบเรื่องความสูงและช่วงชกมหาศาลอย่าง “บริซ เดลวัล” ในรายการ วัน แชมเปียนชิพ ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในวันศุกร์ที่ 10 มกราคมนี้ เจ้าตัวก็ยอมตัดใจไม่กลับบ้านที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ในช่วงปีใหม่ เพื่อทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมรับมือคู่ปรับรายนี้อย่างเต็มที่

 

สำหรับศึกนี้มีชื่อว่า ONE: A NEW TOMORROW ซึ่งถือเป็นศึกแรกของ วัน แชมเปียนชิพ ที่จัดการแข่งขันต้อนรับศักราชใหม่ 2020 โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรก จึงมีการระดมขุนพลชาวไทยขึ้นสังเวียนอย่างคับคั่ง ทั้ง รถถัง จิตรเมืองนนท์, แสตมป์ แฟร์เท็กซ์, แสงมณี เสถียรมวยไทย และเมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม

 

โดยเฉพาะรายหลังสุดจะต้องเจอศึกหนักกับนักมวยสูงยาวชาวแอลจีเรีย “บริซ เดลวัล” ซึ่งมีความสูงถึง 178 ซม. เคยขึ้นท้าชิงแชมป์โลก ONE กับ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และแพ้คะแนนไปอย่างเฉียดฉิวชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด

แถม น้องโอ๋ ยังออกมายอมรับว่า คู่ต่อกรรายนี้ถือเป็นมวยชกยากที่สุดเท่าที่เคยเจอมาในรายการ วัน แชมเปียนชิพ อีกด้วย

 

 

เมื่อได้ยินกิตติศัพท์อันน่ากลัวของคู่ปรับรายนี้ เมืองไทยซึ่งมีความสูง 172 ซม. ไล่เลี่ยกับ น้องโอ๋ 171 ซม. ได้กล่าวเปิดใจว่า “ผมได้ดูวิดีโอการชกของเขากับ น้องโอ๋ แล้ว ยอมรับว่าเขาได้เปรียบรูปร่างเรามาก น่าจะเป็นงานยากพอสมควร และคิดว่าจุดนี้คือจุดแข็งของเขาเลยก็ว่าได้”

 

“เขาน่าจะเป็นคู่ชกที่สูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา ถ้าเราเจอมวยแบบนี้ เราต้องเร็ว และออกอาวุธหนัก เล่นงานช่วงล่าง ด้วยการเตะขาให้เขาเสียสมดุล เพราะน้ำหนักเท่ากัน แต่เขาสูงกว่า เขาก็จะเก้งก้างกว่า ซึ่งตรงจุดนี้ล่ะครับที่น่าจะเป็นจุดอ่อนของเขา”

 

“สำหรับสไตล์การชก เขาเกือบจะชกเหมือนกับนักมวยไทยเลย แต่เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของเราน่าจะมีภาษีกว่า ทั้งเรื่องกระดูกมวย ความแข็งแกร่ง ความอึดทน และการผ่านมวย ที่เรามีมากกว่าเขา”

 

การขึ้นสังเวียนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของ เมืองไทย ในรายการ วัน แชมเปียนชิพ กับการใช้นวมเปิดนิ้ว 4 ออนซ์ ซึ่งเป็นนวมปราบนักมวยระดับเซียนมานักต่อนัก เพราะมันเล็กและบางกว่านวมที่นักมวยไทยบ้านเราใช้กัน ซึ่งจากประสบการณ์สองครั้งที่ผ่านมา เมืองไทยเริ่มจะคุ้นชินกับนวมประเภทนี้มากขึ้นแล้ว

 

 

“ผมเริ่มชินกับนวมแบบนี้แล้วครับ แต่พอเราเริ่มชิน เริ่มรู้ เราก็จะเริ่มมองเห็นปัญหา เห็นจุดอันตรายของมัน คือมันบังอาวุธคู่ต่อสู้ได้ไม่ค่อยดี เพราะมันเล็ก หมัดรอดผ่านได้ ถ้าเราต่อยเขา เขาก็บังยาก เช่นเดียวกันถ้าเขาต่อยเรา เราก็บังยาก ถือว่าต่างก็ยากด้วยกันทั้งคู่ จึงอยู่ที่ใครจะออกอาวุธได้เร็วและแม่นกว่ากัน”

 

“ผมชกที่ประเทศไทยในรายการ ONE ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองครับ ผมชอบนะครับ เพราะจะได้มีแฟนคลับมาเชียร์ถึงสนามได้ และไหนจะเรื่องการเดินทาง การกินอยู่ ที่มันสะดวกกว่า ซึ่งจริงๆ มันก็ดีกันคนละอย่างระหว่างการไปชกต่างประเทศ เพราะทำให้เราได้ประสบการณ์กับการไปเมืองนอกด้วยครับ”

 

เมืองไทยและ บริซ เดลวัล จะพบกันในกติกามวยไทย 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต (65.8 กิโลกรัม) สามารถใช้หมัด เท้า เข่า ศอกได้ แม้เจ้าของฉายา “ขุนศอกผีดิบ” อย่าง เมืองไทย อาจใช้ศอกไม่ถนัดในไฟต์นี้ เพราะเข้าประชิดตัวคู่ชกยาก แต่เราจะได้เห็นอาวุธอันตรายที่เขาเตรียมมาแก้เกมในศึก ONE: A NEW TOMORROW วันที่ 10 มกราคมนี้แน่นอน แฟนตัวจริงต้องไม่พลาดศึกนี้ ติดต่อ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ จองที่นั่งด่วน จองก่อน ได้เลือกที่นั่งที่ดีที่สุดก่อน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน