บิ๊กบอสกิเลนผยอง อย่าง “เสี่ยเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ลุ้นรัฐบาลคลายล็อกให้บอลไทยลีกกลับมาเตะโดยเร็ว ชี้เป็นการคืนความสุขให้พี่น้องประชาชนยามวิกฤติอย่างแท้จริง

บิ๊กบอสกิเลนผยอง อย่าง “เสี่ยเป้”รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวเปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในเมืองไทยเวลานี้ ซึ่งดีวันดีคืน จนรัฐบาลสามาถผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในหลายภาคส่วน จนเข้าสู่เฟสที่ 2 แล้ว และคาดว่าในเดือนหน้าจะมีการคลายล็อกในอีกหลายๆ กิจกรรมตามมา

กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ในส่วนของการแข่งขันฟุตบอลนั้น น่าจะปล่อยให้เริ่มกลับมาได้บ้างแล้ว สโมสรต่างๆ จะได้ฝึกซ้อมเพื่อเข้าสู่โปรแกรมการแข่งขันกันต่อไป โดยเฉพาะในส่วนของฟุตบอลไทยลีก ที่อาจจะกลับมาเตะกันได้เร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ วางกำหนดไว้ในช่วงเดือนก.ย. ซึ่งตนคิดว่าฟุตบอลลีกอาชีพของไทยนั้นหยุดนานเกินไปกับการรอคอยของแฟนฟุตบอล

“เสี่ยเป้” กล่าวต่อไปว่า การคัมแบ๊กของบุนเดลีกาเยอรมนี ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้บรรยากาศจะดูแปลกไปบ้าง เพราะเตะกันแบบปิดไม่มีคนดูในสนาม แต่นี่ถือเป็นโมเดลอย่างดีสำหรับฟุตบอลทั่วโลกที่จะทยอยกลับมาแข่งกันเร็วๆ นี้ ในหลายลีกทั่วโลก ซึ่งไทยเองควรจะดูรูปแบบเอาไว้ เพื่อนำมาปรับใช้ในไทยลีก ที่ตนหวังว่าทางภาครัฐจะอนุญาตให้กลับมาแข่งกันได้ในเร็ววันเช่นกัน เพราะจริงๆ แล้ว ฟุตบอล ถือเป็นการคืนความสุขให้พี่น้องประชาชนเป็นอย่างดีในยามที่ทุกคนกำลังเผชิญวิกฤติร่วมกันอย่างนี้

ขณะเดียวกันนโยบายสมาคม ที่ต้องการจะปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการแข่งขันให้เตะกันแบบข้ามปี โดยเริ่มเดือนก.ย.ปีนี้ แล้วไปจบซีซั่น พ.ค.ปีหน้า ด้วยเหตุผลของการที่จะหลบหน้าฝนนั้น ผอ.ทีมกิเลนผยอง กล่าวว่า ดูแล้วไม่น่าจะเหมาะสมกับลีกในเอเชียสักเท่าใดนัก เพราะไม่สอดคล้องกับปฏิทินหลักของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ทำให้อาจจะมีปัญหาเรื่องทีมที่จะไปเตะถ้วยเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสมาคมจะเริ่มในปีนี้เลย จะมีอีกหลายทีมที่ยังไม่พร้อมเพราะไม่ได้คุยกับสปอนเซอร์ตัวเองไว้ก่อน ดังนั้นเรื่องนี้สมาคมควรจะต้องทบทวนให้ดีอีกครั้ง

“เรื่องการหลบหน้าฝน ผมว่ามันง่ายนิดเดียว แค่ขยับลีกให้เปิดเร็วขึ้น แล้วจบช้าหน่อยถึงปลายปี ส่วนช่วงฤดูฝนให้เป็นการเบรกไปเหมือนหลายชาติในยุโรปพักหนีหนาว แค่นี้จะไม่ต้องเล่นข้ามปีให้ยุ่งยากแล้ว ขณะเดียวกันในช่วงปิดซีซั่นสโมสร หรือสนามฟุตบอลในไทยยังมีโอกาสหารายได้จากการที่ทีมต่างประเทศบินมาเก็บตัวฝึกซ้อมอุ่นเครื่องในเมืองไทยเหมือนที่ผ่านมาได้อีกด้วย” ผอ.กิเลนผยอง กล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวของนักเตะ เอสซีจี เมืองทองฯ ในช่วงที่พักเบรกหลบโควิดนั้น “เสี่ยเป้”เผยว่า ทางกุนซือใหญ่ อเล็กซานเดอร์ กามา ได้ให้โปรแกรมผู้เล่นทุกคน ไปซ้อมเองที่บ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาระดับความฟิตของตัวเองให้พร้อมสำหรับการกลับคืนสนามจริงตลอดเวลา ส่วนนโยบายการลดค่าใช้จ่ายของสโมสรนั้น มีการลดค่าเหนื่อยเฉพาะนักเตะที่มีค่าจ้างสูงๆ ในทีมลงมา 30 เปอร์เซนต์ ซึ่งยอมรับว่าตรงนี้อาจจะมีผลกับการตัดสินใจของผู้เล่นต่างชาติบางคนในทีมว่าจะยังอยู่กับสโมสร หรือย้ายไปเล่นทีมอื่น แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทุกคนยังอยู่กันครบ แม้กระทั่ง ดัง วัน ลัม นายทวารทีมชาติเวียดนาม ที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะย้ายออกไปเพราะเสียตำแหน่งมือ 1 ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนยืนยันว่านายทวารรายนี้ยังมีความสุขดี และตอนนี้หายบาดเจ็บแล้วพร้อมกลับมาแย่งตัวจริงคืนอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับกองหน้าชาวบราซิล อย่าง วิลเลียม พ็อพพ์ ที่ไม่ได้ใช้งานเลยใน 4 เกมแรก หายเจ็บกลับมาสมบูรณ์พร้อมใช้งานแล้ว

ส่วนในรายของ “เจ้าตัง” สารัช อยู่เย็น กัปตันทีม ที่มีกระแสข่าวว่าได้รับความสนใจจากทีมในลีกอาเซียน โดยเฉพาะ สโมสรยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม เจ้าบุญทุ่มแห่งมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก ผอ.เมืองทอง ยืนยันว่า ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับข้อเสนอใดๆ ทั้งสิ้น ความจริง ยะโฮร์ฯ กับ เมืองทอง ติดต่อกันตลอด มีแต่เมืองทอง นี่แหละที่สนใจนักเตะของเขาที่จะเอามาเล่นในโควตาอาเซียนซะมากกว่า

“อนาคตของ สารัช ผมบอกเลยว่าเราเปิดกว้างให้เขาตลอดเรื่องการย้ายไปค้าแข้งต่างแดน ทีมไหนมีข้อเสนอที่ดีน่าสนใจ เราพร้อมให้เจ้าตัวเจรจาอยู่แล้วไม่มีปิดกั้น แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้เจ้าตัวไปเล่นในลีกที่มาตรฐานสูงกว่าบ้านเรา อย่างใน เจลีก หรือ เคลีก หากเป็นลีกในย่านอาเซียนต้องได้ค่าเหนื่อยที่สูงมากพอ คุ้มค่ากับที่เจ้าตัง จะย้ายไปเล่นให้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน