ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 19-30 ส.ค.60 นั้น
ล่าสุด “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่ได้เดินทางไปเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรอรับคณะนักกีฬาไทย ที่จะทยอยเดินทางไปสู้ศึกซีเกมส์ 2017 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 ส.ค. ทาง นายดำรง ใคร่ครวญ เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรไทยประจำมาเลเซีย ได้จัดพิธีถวายชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) และพิธีสดุดีพระคุณแม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2560 ณ สถานทูตไทย โดยตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และเหล่าคนไทย ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 100 คน เข้าร่วมในพิธี
นายธนา กล่าวต่อว่า นักกีฬาที่จะทำหน้าที่ถือธงไตรรงค์นำทัพนักกีฬาไทย เดินเข้าสู่สนามร่วมพิธีเปิด “กัวลาลัมเปอร์เกมส์ 2017” ในช่วงค่ำวันที่ 19 ส.ค.นั้น ได้พิจารณามอบหมายให้ “ปุ้ย” พรชัย เค้าแก้ว นักกีฬาตะกร้อจอมเก๋า รับหน้าที่นี้ โดย พรชัย มีโปรแกรมลงแข่งขันตะกร้อ ช่วงเช้าวันที่ 19 ส.ค. ซึ่งจะเป็นการชิงเหรียญทองด้วย คาดว่า เราน่าจะได้ฉลองเหรียญทองก่อนพิธีเปิดจะมีขึ้นเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกับทาง นายธวัช กุมุทพงษ์พานิช ผู้จัดการทีมตะกร้อไทย แล้ว จึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
หัวหน้านักกีฬาไทย กล่าวต่อว่า ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นที่น่าดีใจแทนนักกีฬาไทยอย่างมาก เพราะคนไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ทั้งประชาชน นักศึกษา พ่อค้า นักธุรกิจ ท่าทูตทหารเรือ ท่านกงสุลกิตติมศักดิ์ ฯลฯ ต่างพร้อมใจยื่นมาให้ความช่วยเหลือ และประสานงานด้านต่างๆ อย่างเต็มที่
ส่วนของกีฬาเรือใบและวินด์เซิร์ฟ ที่เดินมาเตรียมความพร้อมตั้งแต่ช่วงต้นเดิน ส.ค. ตอนนี้ก็ได้ฝึกซ้อมที่เกาะลังกาวี อย่างต่อเนื่อง และมีกำหนดการเข้าพักในโรงแรมที่เจ้าภาพจัดไว้ให้ในวันที่ 19 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่ระบบการแข่งขันจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการนั่นเอง
สำหรับ “ปุ้ย” ร้อยตรี พรชัย เค้าแก้ว เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น ปัจจุบันอายุ 36 ปี ลงเล่นซีเกมส์ มาแล้ว 8 ครั้ง คว้ามาได้ 11 เหรียญทอง ซึ่ง ซีเกมส์ ครั้งนี้ จะเป็นครั้งที่ 9 นอกจากนี้ยังเป็นนักกีฬาไทย ที่ทำสถิติคว้าเหรียญทอง ในเอเชี่ยนเกมส์มากที่สุด คือ 8 เหรียญทอง จากการลงเล่นในเอเชี่ยนเกมส์ทั้งหมด 4 ครั้ง ถือเป็นการทำลายสถิติเดิมของ “โจ้ หลังเท้า” สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติไทย ซึ่งเคยทำไว้ที่ 7 เหรียญทอง อีกด้วย
