โฆษกบอล พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ยืนยันสมาคมลูกหนังไม่แผนจะยกเลิกวีเออาร์ เพียงแต่มีความจำเป็นเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

โฆษกบอล พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กล่าวถึงกรณีที่ ประธานสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และการท่าเรือ เอฟซี ร่วมแถลงข่าวเรียกร้องให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทบทวนเรื่องการงดใช้เทคโนโลยีวีดิโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์) โดยพร้อมจะจ่ายเงินค่าวีเออาร์จำนวน 16 ล้านบาท ว่าสมาคมฟุตบอลไม่มีแผนจะยกเลิกแต่อย่างใด เพียงแต่ช่วงนี้สมาคมกำลังขาดสภาพคล่องทางการเงินจากสถานการณ์โรคโควิด-19

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า “การนำเทคโนโลยีวีเออาร์มาใช้ในการตัดสิน เกิดขึ้นตามนโยบายของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งถือเป็นชาติแรกในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังเป็นอันดับต้นๆ ในทวีปเอเชีย และไม่กี่ประเทศของโลก โดยได้มีการพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากร นำเทคโนโลยี VAR เข้ามาเพื่อให้การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ และรายการอื่นๆ ที่จัดขึ้นโดยสมาคมฯ มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุด และต้องใช้ความพยายามและเวลาเป็นอย่างยิ่งจนได้รับการอนุมัติรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติในที่สุด จึงเห็นได้ว่านี่คือเจตนารมณ์ของสมาคม ที่ต้องการยกระดับและพัฒนาวงการฟุตบอลไทยมาตั้งแต่แรก หากไม่มีวิกฤตโควิด-19 และปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกับทรูวิชั่นส์ ซึ่งทำให้เงินค่าลิขสิทธิ์หายไป 800 ล้านบาท ผมเชื่อว่าสมาคมไม่ยกเลิกการใช้เทคโนโลยีวีเออาร์อย่างแน่นอน”

“ส่วนกรณีเรื่องความชัดเจนในการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพทั้งนี้ ในการลงมติของสโมสรสมาชิก เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 มีความเห็นเป็นให้กลับมาแข่งขัน ในวันที่ 12 กันยายน 2563 และจบฤดูกาล เดือนพฤษภาคม 2564 ซึ่งกำหนดการดังกล่าวไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม”

“เรื่องเงินสนับสนุน สมาคมฯ จัดสรรเงินสนับสนุนจากค่าลิขสิทธิ์บางส่วนให้กับทีมสโมสรสมาชิก ในทุกฤดูกาล เมื่อทรูวิชั่นส์ ยืนยันจะถ่ายทอดสด ถึงแค่วันที่ 25 ต.ค. จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อเงินสนับสนุนของทีมสโมสรสมาชิก ซึ่งขณะนี้สมาคมฯ กำลังดำเนินการเจรจาเพื่อหาผู้ถ่ายทอดหรือถือลิขสิทธิ์รายใหม่ เพื่อนำเงินมาจัดสรรให้แก่ทีมสโมสรสมาชิก และช่องทางการถ่ายทอดสด จำนวนนัดที่จะมีการแพร่ภาพหากกระบวนการดังกล่าวเสร็จสิ้น สมาคมฯ จะแจ้งให้ทราบโดยเร็วต่อไป”

“สำหรับการตรวจสอบงบดุล งบกำไร-ขาดทุน รายรับ-รายจ่ายของสมาคม นั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีสถานะเป็นนิติบุคคล และได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด.55 ตาม ม.68 และ ม.69 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวเป็นเอกสารที่เปิดเผยต่อสาธารณะ”

“นอกจากนี้สมาคมฯ ได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อชี้แจงงบดุล งบกำไร-ขาดทุน รายรับ-รายจ่าย ต่างๆ ของสมาคมฯ และได้ส่งเอกสารทั้งหมดให้แก่สโมสรสมาชิกก่อนการประชุม 30 วันเป็นการเฉพาะ โดยในปี 2563 ได้จัดให้มีขึ้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ห้องประชุม ชั้น 24 ตึก 25 ชั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

“หากยังมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อประสานงานเพื่อขอรับคำชี้แจงจากทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยตรงได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน