กกท . เตรียมส่งทีมงาน ลงพื้นที่ ตลอดเดือน ต.ค.นี้ สำรวจความพร้อมจังหวัดที่เสนอตัวขอจัดกีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาแห่งชาติ เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับมาพิจารณา คัดเลือกจังหวัดที่เหมาะสมทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพต่อไป
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
“รองตูน” นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท ) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ กล่าวว่า ตนได้มอบนโยบาย การทำงานให้ฝ่ายธุรกิจและสิทธิประโยชน์ ในปี 2564 ไว้ทั้งหมด 4 ข้อ เพื่อให้งานด้านนี้เดินหน้าได้อย่างคล่องตัว ดังนี้ 1.การหารายได้ ต้องเพิ่มรูปแบบและวิธีการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันระหว่าง กกท. และผู้สนับสนุน, 2.การบริการที่เน้น service mind (การบริการต้องทำด้วยหัวใจ) ทั้งกับลูกค้าและคนภายในองค์กรด้วยกัน และให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริการเป็นแบบภาคเอกชน มีความยืดหยุ่นสูง
3.เนื่องจากอยู่กับผลประโยชน์ต่าง ๆ ดังนั้นต้องทำภายใต้กฎระเบียบ โดยเฉพาะการเงินที่ต้องโปร่งใส หรือการรักษาสัญญากับผู้สนับสนุนต่าง ๆ และ 4. ท้ายสุด แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างด้านกายภาพว่าในอนาคต กกท.จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรภายใต้โครงการ สมาร์ท เนชั่นแนล สปอร์ต พาร์ค (Smart National Sport Park)
ด้านความคืบหน้า การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ และกีฬาแห่งชาติ ซึ่งดูแลรับผิดชอบโดย กกท. โดยจังหวัดที่เสนอตัวขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 38 ได้แก่ จังหวัดราชบุรี, จังหวัดนครสวรรค์, จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเพชรบูรณ์, ครั้งที่ 39 ได้แก่ จังหวัดชลบุรี, จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดกระบี่, ครั้งที่ 40 ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ส่วนจังหวัดที่เสนอตัวขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี, จังหวัดขอนแก่น, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดตรัง, จังหวัดกระบี่ และ จังหวัดเพชรบูรณ์, ครั้งที่ 50 ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ และ จังหวัดอุดรธานี และครั้งที่ 51 ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ นั้น
ล่าสุด หลังจาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 38, 39, 40 และกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49, 50, 51 ครั้งที่ 3/2563 โดยมีจังหวัดที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ เข้ามานำเสนอความพร้อม ไปเมื่อต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ กกท. จะมีการประชุมกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดวันลงพื้นที่สำรวจความพร้อมจังหวัดต่าง ๆ ในเบื้องต้นคาดว่าจะ กกท. จะส่งทีมงาน ออกสำรวจความพร้อมของทุกจังหวัด ตลอดเดือนต.ค.นี้ เพื่อนำข้อมูลที่ได้รับมาพิจารณา คัดเลือกจังหวัดที่เหมาะสมทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพต่อไป
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาในเบื้องต้น ได้กำหนดให้จังหวัดที่เสนอขอรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ จัดการแข่งขันกีฬา ไม่น้อยกว่า 24 ชนิดกีฬา โดยมีกีฬาบังคับ 2 ชนิดกีฬา ได้แก่ ว่ายน้ำ และกรีฑา ส่วนกีฬาแห่งชาติ จะต้องจัดแข่งขันกีฬาไม่น้อยกว่า 30 ชนิดกีฬา โดยมีกีฬาบังคับ 2 ชนิดกีฬา ได้แก่ ว่ายน้ำ และกรีฑา เช่นกัน
นอกจากนี้ จะต้องมีสนามฝึกซ้อม-สนามแข่งขันที่ได้มาตรฐาน และเพียงพอกับจำนวนชนิดกีฬา, มีสถานที่พักที่ได้มาตรฐาน เพียงพอ ต่อนักกีฬาและผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนนักท่องเที่ยว และผู้สนใจชมการแข่งขัน, มีระยะทางการเดินทางระหว่างสนามแข่งขัน สนามฝึกซ้อม และที่พัก สะดวก รวดเร็ว, มีการรับ-ส่งนักกีฬา ระหว่างที่พัก ไปสนามแข่งขันและสนามฝึกซ้อม, มีแผนรักษาความปลอดภัย, มีสถานพยาบาลที่เพียงพอ เหมาะสมและรวดเร็ว รวมถึงประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดให้ความร่วมมือ รวมทั้ง องค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนสามารถรองรับและสนับสนุนการจัดการแข่งขันได้, จังหวัดมีแผนยุทธศาสตร์สอดคล้องกับแผนพัฒนากีฬาชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560 – 2564) และมีมาตรการควบคุมความปลอดภัยด้านสุขภาพ มีรูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่ (New Normal) เพื่อรองรับการแข่งขันฯ ด้วย
อนึ่งเกมการแข่งขันในความดูแลของกกท. ได้เลื่อนจากปี 2563 ไปเป็นปี 2564 แล้ว เนื่องจากปัญหาโควิด-19 ได้แก่ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 “ช้างขาวเกมส์” วันที่ 18-28 เม.ย. 2564 ที่จังหวัดตราด, กีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 3 “ตราดเกมส์” วันที่ 5-11 พ.ค. 2564, กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” วันที่ 5-15 มิ.ย. 2564 ที่จังหวัดศรีสะเกษ และกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “นครลำดวนเกมส์” วันที่ 7-11 ก.ค. 2564 รวมถึงล่าสุด จังหวัดพัทลุง ก็เลื่อนการแข่งขันจากปี 2564 ไปเป็นปี 2565 ด้วย ได้แก่ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “พัทลุงเกมส์” วันที่ 21-31 มี.ค. 2565 และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ครั้งที่ 4 “เสลักเกมส์” วันที่ 24-30 เม.ย. 2565
