แข้งเทพ เปิดตัว “โค้ชแบน” สัญญาปีครึ่ง เจ้าตัวรับเป็นงานที่ท้าทาย แต่ตัดสินใจไม่ยากเพราะ บียู เต็มไปด้วยขุมกำลังชั้นเยี่ยม ด้าน ‘บิ๊กขจร’ ชี้แพ้ทางความเป็นสุภาพบุรุษ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.63 ที่ห้องแถลงข่าว ทรู สเตเดียม (ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์ รังสิต) นายขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัว “โค้ชแบน” นายธชตวัน ศรีปาน เข้าเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน แข้งเทพ อย่างเป็นทางการ
นายขจรกล่าวว่า ชื่อเสียงของนายธชตวันเป็นไปในทางที่ดี มีความเป็นสุภาพบุรุษ ผลงานที่ผ่านมาดีมาก น่าจะเข้ากับนักเตะทีมบียูแน่นอน เพราะหลายคนเคยเล่นในทีมของโค้ชแบนด้วย ประกอบการอยู่กับทีมชาติไทยมาทำให้คุ้นเคยกับนักเตะบียูที่ติดทีมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นเหตุผลทั้งหมดทำให้มั่นใจว่าโค้ชธชตวันเหมาะสมกับทีมอย่างมาก
“ช่วงแรกอยากให้โค้ชแบนเข้ามาศึกษาทีมก่อนว่าเล่นกันยังไง เป็นมายังไง เพราะต้องให้เวลาในการศึกษา ส่วนเป้าหมายวางไว้สูงมากอยู่แล้ว หลังจากให้เวลาสักระยะแล้วจะมาคุยกันถึงเป้าหมายอีกครั้ง ส่วนเรื่องสัญญา เราได้ตกลงเซ็น โค้ชแบนด้วยสัญญา 1 ปี ครึ่ง โดยโค้ชแบนจะคุมทีมยาวไปจนจบฤดูกาล 2021” ประธานสโมสรแข้งเทพกล่าว
“ส่วนเรื่องการเสริมตัวผู้เล่น ตอนนี้ยังไม่ในใจ สิ่งสำคัญวันนี้เราได้ตัวโค้ชแบนเข้ามาคุมทีม ดังนั้น เราจะมีการประเมินร่วมกับโค้ชอีกครั้ง ศึกษาโครงสร้างทีม และหากจำเป็นต้องเสริมในจุดที่เราเห็นตรงกันว่าควรต้องเสริม ก็จะมีการเสริมนักเตะเข้ามาอย่างแน่นอน แต่ ณ ตอนนี้ ยังไม่มีชื่อใครในใจ”
นายธชตวันกล่าวว่า ยอมรับว่าตกใจที่ทรู แบงค็อก ให้ความสนใจจะดึงมาคุมทีม แต่ก็ตัดสินได้ไม่ยาก เพราะชอบที่จะเป็นเฮดโค้ชอยู่แล้ว ทรู แบงค็อกเป็นทีมใหญ่ที่มีคุณภาพในทุกด้าน ทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้นที่จะรับงานนี้ การที่คุ้นเคยกับนักเตะในทีมชาติมาก่อนแล้ว ก็เป็นอีกปัจจัยที่รับงานนี้ เพราะทำให้ปรับตัวได้ไม่ยาก หลังจากนี้จะต้องมาปรับตัวและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกทีมทุกคนกลับมาทำผลงานให้ดีอีกครั้ง
“มองกันนระยะสั้นจะต้องศึกษาตัวผู้เล่นที่มีอยู่ก่อนว่ามีศักยภาพ ฟอร์มที่หลุดหายไป เพื่อดึงฟอร์มกลับมา แล้วค่อยมาตั้งเป้ากันอีกครั้ง” โค้ชแบนกล่าว
สำหรับ ธชตวัน ศรีปาน นั้นผ่านการคุมหลายสโมสร ทั้ง บีอีซี เทโรศาสน, สระบุรี เอฟซี, เพื่อนตำรวจ จนกระทั่งมาประสบความสำเร็จสูงสุดตอนคุม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พาทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้ในปีพ.ศ.2559 ก่อนที่จะลาออกเมื่อปี พ.ศ.2561 ก่อนไปคุม โปลิศ เทโร, สุพรรณบุรี เอฟซี ผลงานไม่ดีนัก จึงขอลาออก ก่อนมาเป็นผู้ช่วยของ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย
