บรูโน – การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันที่ 7 พ.ย. ทีม“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ของ คาร์โล อันเชล็อตติ เปิดสนามกูดิสัน ปาร์ก ต้อนรับการมาเยือนของทีม“ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์

เกมนี้เอฟเวอร์ตัน ส่ง ฮาเมส โรดริเกซ กองกลางตัวเก่งลงสนาม ส่วนกองหน้ายังใช้ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลเวน หัวหอกตัวความหวัง ทางด้านแมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้ให้ อองโตนี มาร์กซิยาล ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมี มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน แฟร์นานเดส และ ฮวน มาตา คอยสนับสนุน

เปิดฉากมาเป็นเจ้าบ้านที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนจากจังหวะการวางบอลยาวของ จอร์แดน พิกฟอร์ด บอลหลุดมาถึง แบร์นาร์ด ได้จังหวะยิงจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าประตูไป โดยที่ ดาบิด เกอา นายด่านแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถป้องกันได้ ในนาทีที่ 19

แต่หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ ลุค ชอว์ โยนบอลเข้าไปในเขตโทษ บรูโน แฟร์นานเดส ได้โขกเข้าประตูไป ให้ผีแดงตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 25

อีก 2 นาทีต่อมา เอฟเวอร์ตัน มีโอกาสได้ประตูเพิ่มจากจังหวะที่ ลูกาส์ ดีญ ลากบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนซัดเต็มข้อไปที่เสาแรกแต่บอลชนเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากเจ้าบ้านพลาดโอกาสสำคัญ กลายเป็นทีมเยือนที่มาได้ประตูพลิกนำ 2-0 จากจังหวะที่ บรูโน แฟร์นานเดส เปิดบอลเข้ามาในเขตโทษ มาร์คัส แรชฟอร์ด กระโดดโหม่งไม่ถึง แต่บอลยังลอยไปเสียบเสาเข้าประตูไป ในนาทีที่ 32 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ครึ่งหลังทั้งสองทีมยิงประตูกันไม่ได้จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+4 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สวนกลับบรูโน พาบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนจ่ายต่อให้ เอดิสัน คาวานี ที่ลงมาเป็นตัวสำรองยิงเข้าประตูไป และเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อแมนฯ ยูไนเต็ด ให้ผีแดงนำ 90+4

จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ เอฟเสอร์ตัน 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้ม จาก 7 นัด อยู่อันดับ 13 ส่วน เอฟเวอร์ตันมี 13 แต้ม จาก 8 นัด อยู่อันดับ 5

เรนาโต ซานเชส เนื้อหอม! ทีมอิตาลีรุมจีบ หลังโชว์ฟอร์มเกมถล่มมิลาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน