สภากรรมการ สมาคมฟุตบอลจัดประชุมครั้งแรกประจำปี 2564 โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาปัญหาไทยลีก 3 โซนเหนือ และโซนกรุงเทพฯ ที่ยังไม่มีทีท่าจะลงตัว ต้องเพลย์ออฟ

สภากรรมการ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดประชุมสภาครั้งแรกประจำปี 2564 เมื่อ 27 ม.ค. โดยมี “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมเป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน
อุปนายกสมาคมฯ ประกอบด้วย ดร.ลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์, นางศิริมา พานิชชีวะ, นายธนศักดิ์ สุระประเสริฐ, อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ และ นายยุทธนา หยิมการุณ ร่วมประชุมผ่านทางวีดิโอคอนเฟอเรนซ์

สภากรรมการประกอบด้วย รศ.ดร. วิชิต คะนึงสุขเกษม, พล.ร.ต.นิกูล อินทรสุวรรณ, นายสมเกียรติ กิตติธรกุล, นายธวัช อุยสุย, นายณรงค์ ห้วยหงส์ทอง, นายศศิศ สิงโตทอง และ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ,นายพงษ์ศักดิ์ มูลสาร,นายบริพัฒน์ สมมี, นายธนวัชร นิติกาญจนา ร่วมประชุมผ่านทางวีดิโอคอนเฟอเรนซ์

นอกจากนี้ยังมี พล.ต.ท. อำนวย นิ่มมะโน ประธานคณะพิจารณาวินัยและมารยาท / โฆษกสมาคมฯ , นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด, นายยงยศ พึ่งธรรม รองเลขาธิการฝ่ายกฎหมาย, นายปิยภัทร สโรบล รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ

ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมฯ แถลงข่าวกรณีไทยลีก 3 ทีี่ทางสมาคมฟุตบอลฯ ได้สั่งให้ยุติไทยลีก 3 และให้ถือเป็นสิ้นสุดฤดูกาล ในการจัดลำดับอันดับ ทีมที่จะเข้ารอบ ต่อไป 12 ทีม จาก 6 โซน ปรากฏว่า เกิดปัญหา ความขัดแย้ง ในโซน ภาคเหนือ และโซนกรุงเทพฯและปริมณฑล

 

โซนภาคเหนือ สโมสรแม่โจ้ ยูไนเต็ด มีคะแนนเป็นอันดับ 2 มากกว่าพิษณุโลก เอฟซี 1 คะแนน แต่พิษณุโลก มีนัดการแข่งขันน้อยกว่า 1 นัด ซึ่ง ในนัดที่ไม่ได้ทำการแข่งขันนั้น เกิดจากฝ่ายจัดการแข่งขันสั่งให้เลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ อันไม่ใช่เป็นความผิดของสโมสรพิษณุโลก

 

ดังนั้นการที่จะใช้ระเบียบข้อบังคับ กำหนดให้ สโมสรแม่โจ้ ได้สิทธิ์ เป็นอันดับ 2 ของโซน ไปทำการแข่งขัน จะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับสโมสรพิษณุโลก ขึ้นได้ จึงถือเป็นเหตุสุดวิสัย ที่จะไม่บังคับ ให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับดังกล่าวแต่ถ้าจะบังคับใช้จะเกิดความไม่เป็นธรรมดังกล่าวแล้ว

 

โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล สโมสรบางกอก เอฟซี กับสโมสร นนทบุรี ยูไนเต็ด ส.บุญมีฤทธิ์ มีคะแนนสะสม ทีมละ 44 คะแนนเท่ากัน ดังนั้น จำต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์อื่นประกอบ ซึ่งถ้าพิจารณา ตามระเบียบข้อ 13.2 ซึ่งมีบทบัญญัติ เป็นหลักเกณฑ์ ที่ใช้ในการพิจารณา เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขัน ให้พิจารณาจากผลการแข่งขันแบบเฮดทูเฮด สโมสรบางกอก เอฟซี จะได้สิทธิ์ เป็นทีมอันดับ 2

 

ถ้าพิจารณาตามหลักเกณฑ์ ข้อ 13.3 ซึ่งเป็นบทบัญญัติ หลักเกณฑ์การจัดอันดับ ในระหว่างการแข่งขัน โดยนำผลประตูได้ประตูเสียมาพิจารณา สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด จะได้สิทธิ์ไปทำการแข่งขัน เป็นทีมอันดับ 2 ซึ่งตามระเบียบทั้ง 2 ข้อดังกล่าว ขาดความชัดเจน ของบทบัญญัติ กล่าวคือ ในระเบียบข้อ 13.3 ไม่มีบทบัญญัติ ที่กล่าวว่า สิ้นสุดฤดูกาลระหว่างการแข่งขัน

 

แต่เมื่อดูเจตนารมณ์ ของบทบัญญัติ ซึ่งทั้งสองสโมสรได้นำระเบียบในข้อนี้มาโต้แย้ง​เพื่อรักษาประโยชน์ของตนเองแล้วในช่วงของการพิจารณา น่าที่จะหมายความรวมถึงการสิ้นสุดฤดูกาลในระหว่างการแข่งขันด้วย เพราะถ้าหาก ให้สิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันได้เฉพาะ ในระเบียบข้อ 13.2 เท่านั้น โอกาสที่จะ นำผลการแข่งขัน แบบเฮดทูเฮดมาใช้ในการพิจารณาอาจจะไม่เกิดขึ้น

 

บทบัญญัติของระเบียบข้อบังคับทั้งสองข้อดังกล่าว กับเจตนารมณ์จึงขาดความชัดเจนและย้อนแย้งกันในตัว ดังนั้นการที่จะตีความ บทบัญญัติในระเบียบทั้ง 2 ข้อ ที่ขาดความชัดเจน​ อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สโมสรใดสโมสรหนึ่งขึ้นได้ จึงเป็นกรณีที่ ระเบียบข้อบังคับ ขาดความชัดเจน

 

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เห็นว่าเพื่อให้เป็นไปตาม ข้อบังคับลักษณะปกครอง ข้อที่ 3.7 ที่ว่า “เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสมาชิก สโมสร บุคลากร และนักกีฬาในวงการ”

 

ข้อ 3.8 ที่ว่า “เพื่อส่งเสริมให้บุคลากร และองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ และหลักการความยุติธรรม ต่อทุกฝ่าย รวมทั้งหลักการของความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์ และยึดหลักคุณธรรมและความมีน้ำใจนักกีฬา”

 

ข้อ 3.9 ที่ว่า “เพื่อยุติความขัดแย้ง ภายในที่อาจเกิดขึ้นระหว่างสมาคม กับสมาชิก และระหว่างสมาชิก สโมสรบุคลากรและนักกีฬาในสมาคมฯ” จึงอาศัยอำนาจ ตาม ข้อ 82 ที่ว่า “กรณีใดๆ ที่ข้อบังคับมิได้กำหนดไว้ก็ดี หรือ กรณีเกิดเหตุสุดวิสัยก็ดี ให้สภากรรมการเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด”

 

โดยมติของสภากรรมการ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้จัดแข่งแบบเพลย์ออฟ ขึ้นทั้ง 2 คู่ คือ แม่โจ้ ยูไนเต็ด แข่งขันกับ พิษณุโลก เอฟซี และ บางกอก เอฟซี แข่งขันกับ นนทบุรี ยูไนเต็ด ส.บุญมีฤทธิ์ เพื่อหาผู้ชนะ ให้ได้สิทธิ์ ไปเล่นรอบแชมเปียนส์ลีก ในฐานะทีมอันดับ 2

 

“จากการพูดคุยเบื้องต้นกับ บริษัท ไทยลีก ผู้จัดการแข่งขันได้รับคำตอบว่าเกมนัดเพลย์ออฟน่าจะเตะกันได้ในวันที่ 1 ก.พ. ส่วนสนามแข่งขันจะใช้สนามไหนนั้นจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง” พล.ต.ท.อำนวน กล่าว

 

สำหรับ โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 3 จะเริ่มแข่งขันรอบออมสิน ลีก เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ ในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2564 และสิ้นสุดรอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 6-7 มีนาคม 2564 ส่วนรอบชิงชนะเลิศ และชิงอันดับ 3 จะเริ่มแข่งนัดแรกวันที่ 13-14 มีนาคม 2564 และนัดที่ 2 วันที่ 20-21 มีนาคม 2564

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน