ทีมชาติไทย สู้เต็มร้อย ซูฮก สรานนท์ โชว์ซูเปอร์เซฟ แจ้งเกิดเต็มตัวศึกเอเชียน คัพ

ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ แม้ว่าจะใช้ผู้เล่นสำรองยกชุด แต่โชว์ความเหนียวแน่นเกมรับ ต้านซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะ สรานนท์ ฟอร์มหนึบช่วยช้างศึกไม่แพ้ใคร

ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่เพิ่งเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนจาก มาโน โพลกิง กุนซือเยอรมัน-บราซิเลียน มาเป็น มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น มีโปรแกรมสำคัญในฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย กลุ่มเอฟ พบกับ “เศรษฐีน้ำมัน”ซาอุดีอาระเบีย อันดับ 56 ของโลก ซึ่งทัพช้างศึกไม่เคยเอาชนะมาตลอด 40 ปี และไม่เคยป้องกันประตูได้มาตลอด 15 ปีหลังสุด

ด้วยสถานการณ์ที่ช้างศึกผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แน่นอนแล้ว จากการเก็บ 4 คะแนนจาก 2 นัดแรก แถมด้วยสถิติไม่เสียประตูให้กับทั้งคีร์กิซสถาน (ชนะ 2-0) และโอมาน (เสมอ 0-0) ทำให้เกมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ ที่เจอกับซาอุดีอาระเบีย จึงตัดสินใจส่งผู้เล่นตัวสำรองลงสนามแบบยกชุด ประกอบกับการที่ทีมเป็นแชมป์กลุ่มเอฟ จะเข้าไปเจอกับ “โสมขาว”เกาหลีใต้ ตัวเต็งอันดับต้นรายการนี้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ซาอุดีอาระเบีย ที่เข้ารอบแน่นอนแล้ว ส่งสำรองลงสนามหลายตำแหน่งเช่นเดียวกัน แม้ว่าทั้งสองทีมจะไม่ใช้ผู้เล่นตัวหลัก แต่ว่าจากการเล่นในสนามต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกเพื่อหวังชัยชนะโดยไม่สนว่าเกมข้างหน้าจะต้องดวลกับใคร เพราะชื่อชั้นของซาอุดีอาระเบียนั้นเหนือกว่าไทยหลายขุม ขณะที่ทีมชาติไทยไม่ว่าจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมจะเจอกับใครล้วนเป็นรองทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่มีอะไรจะเสียขอทำหน้าที่ตรงหน้าให้ดีที่สุด

รูปเกมส่วนใหญ่หากใครได้ดูการถ่ายทอดสดจะเห็นว่าแม้ซาอุดีอาระเบียจะใช้สำรองหลายตำแหน่งแต่ยังเป็นฝ่ายที่ครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน เพราะชื่อชั้นกุนซือของซาอุดีอาระเบีย อย่าง โรแบร์โต มันชินี ที่ผ่านการคว้าแชมป์มามากมาย ไม่ยอมเสียหน้าในการพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติไทยตัวแทนอาเซียน

ขณะที่ทีมชาติไทย แม้ว่าจะเล่นเป็นรอง แต่หัวใจสู้ไม่ยอมแพ้และพยายามโต้กลับเพื่อหวังทำประตูเป็นผู้ชนะในเกมทั้งที่รู้อยู่แล้วหากชนะจะเป็นแชมป์กลุ่ม และต้องเข้าไปเจอกับตัวเอ้ของทวีปเอเชียอย่าง เกาหลีใต้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

สุดท้ายแม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะพยายามเร่งเกมอย่างหนักเพื่อเก็บชัยชนะในเกมนี้ แต่ว่าทีมชาติไทยที่แม้ว่าจะใช้ผู้เล่นสำรองพยายามช่วยป้องกันอย่างแข็งขัน ก่อนจะจบเกมด้วยการเสมอกัน 0-0 ทำให้ทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์ ไม่แพ้รอบแรกเอเชียน คัพ และไม่เสียประตูให้คู่แข่งในรอบแรก เอเชียน คัพ รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรก

หนึ่งในขุนพลทีมชาติไทยที่ได้รับกายกย่องว่าทำผลงานยอดเยี่ยม พร้อมกับคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำแมตช์คงหนีไม่พ้น สรานนท์ อนุอินทร์ ที่โชว์เซฟลูกจุดโทษที่ไทยควรจะตกเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่ยังไม่ถึง 10 นาทีแรก นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ป้องกันหน้ากรอบ 18 หลาได้ไม่มีที่ติ

2 เกมก่อนหน้านี้ “ไมค์”ปฏิวัติ คำไหม นายด่านจากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มโดดเด่น แม้กระทั่ง สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ต้องเอาโปรไฟล์มาเผยแพร่บนเพจเฟซบุ๊ก รวมถึงแอพพลิเคชันเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) แต่เกมนี้ สรานนท์ ได้รับโอกาสเป็นตัวจริง และทำหน้าที่ได้ไม่ขัดเขินจากตัวหลักแม้แต่น้อย

แม้ว่า สรานนท์ จะมีชื่อติดทีมชาติไทยมานาน ตั้งแต่ปี 2018 ในยุคของมิโลวาน ราเยวัช ต่อเนื่องมาถึงยุค อากิระ นิชิโนะ รวมถึง มาโน โพลกิง แต่สุดท้ายไม่เคยได้รับโอกาสลงสนาม ทั้งที่ผลงานกับสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด ทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการ “เซฟลูกจุดโทษ”

วันนี้ สรานนท์ ทำให้เห็นว่าผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ไม่น้อยหน้านายด่านยักษ์ใหญ่ตัวสูงของทวีปอื่น และพร้อมเป็นตัวเลือกให้ มาซาทาดะ อิชิอิ ชี้นิ้วใช้งานในเกมถัดที่ไทยจะต้องเจอกับอุซเบกิสถานแบบไม่เคอะเขิน

ถึงตอนนี้ สรานนท์ อนุอินทร์ กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ของทีมชาติไทย ในการลงสนามเฝ้าเสาให้ทัพช้างศึกอย่างเป็นทางการ และแน่นอนสโมสรไหนอยากได้ไปเฝาเสาคงต้องเตรียมสินสอดเป็นจำนวนไม่น้อย