การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามนัดสุดท้ายกลุ่มเอฟ พบ ซาอุดีอาระเบีย โดยก่อนเกมนี้ ไทย มี 4 คะแนน รั้งอันดับ 2 ส่วน ซาอุดีอาระเบีย มี 6 คะแนน รั้งจ่าฝูง โดยทั้งคู่การันตีเข้าสู่รอบ 16 ทีมแน่นอนแล้ว เหลือเพียงตัดสินว่าจะเข้ารอบเป็นอันดับ ที่เท่าไหร่ของกลุ่ม
เริ่มเกมทั้งสองทีมเปิดเกมรุกแลกกันสนุก และเพียงนาทีที่ 11 เท่านั้น ซาอุดีอาระเบีย ก็มาได้จุดโทษ แต่ สรานนท์ อนุอินทร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ป้องกันลูกยิงของ อับดุลลาห์ ราดิฟ เอาไว้ได้ ทำให้สกอร์ยังเท่ากันอยู่ที่ 0-0
จากนั้นเป็นโอกาสของไทยบ้าง เมื่อ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ เปิดเข้ากลางให้ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย สอดขึ้นมาโหม่งเข้าประตูไปแล้ว ในนาที 15 แต่สุดท้ายถูก วีเออาร์ จับเป็นลูกล้ำหน้า ถัดมาสองนาที อับดุลลาห์ ราดิฟ ได้ชาร์จส่งบอลเข้าไปประตูบ้าง แต่ก็ถูกจับเป็นลูกล้ำหน้าเช่นกัน
นาที 35 แฟนบอลชาวไทยต้องเฮ เก้อกันอีกครั้ง เมื่อ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โขกชงให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่สุดท้ายก็ถูกจับเป็นลูกล้ำหน้าไปอีกครั้ง
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เป็น ซาอุดีอาระเบีย ที่เริ่มครองเกม และตั้งโซนบุกใส่ ทีมชาติไทย แต่สุดท้าย ขุนพลช้างศึก ยังช่วยกันตั้งรับเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ จบ 45 นาทีแรก ไทย เสมอกับ ซาอุดีอาระเบีย 0-0
ครึ่งหลังเป็น ซาอุดีอาระเบีย ที่ครองบอลบุกได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทีมชาติไทย ทำได้เพียงตั้งรับแล้วสวนกลับ จบ 90 นาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ เสมอ 0-0
ทำให้ ทีมชาติไทย เก็บเพิ่มเป็น 5 คะแนน คว้าอันดับ 2 กลุ่มเอฟ ผ่านเข้าไปพบ อุซเบกิสถาน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค. เวลา 18.30 น. ส่วน ซาอุดีอาระเบีย เก็บเพิ่มเป็น 7 คะแนน คว้าอันดับ 1 กลุ่มเอฟ ผ่านเข้าไปพบกับ เกาหลีใต้ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเอฟ โอมาน ลงสนามพบ คีร์กิซสถาน โดยก่อนเกมนี้ โอมาน มี 1 คะแนน ต้องชนะเท่านั้น จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน คีร์กิซสถาน ตกรอบแน่นอนแล้ว
ผลปรากฏว่า โอมาน ได้ประตูนำก่อนก็จริง แต่มาโดน คีร์กิซสถาน ตีเสมอช่วงท้ายเกม นาที 80 ทำให้เสมอกัน 1-1 สรุป โอมาน มีเพียง 2 คะแนน คว้าอันดับ 3 กลุ่มเอฟ แต่ไม่เพียงพอ จะเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีม จาก 6 กลุ่ม
โดยทีมที่เข้ารอบเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุดทีมสุดท้ายคือ อินโดนีเซีย จากกลุ่มเอฟ ที่มี 3 คะแนน