โฆเซลูฮีโร่ - เรอัล มาดริด พลิกแซงชนะบาเยิร์น มิวนิก เข้าชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

เรอัล มาดริด ตกเป็นฝ่ายตามหลังจนทำท่าจะแพ้ แต่มารัว 2 ประตูช่วงท้ายเกม พลิกแซงชนะบาเยิร์น มิวนิก เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี แมตช์แรกเสมอกันมา 2-2

เกมนี้เจ้าบ้านจัด วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก, จูด เบลลิงแฮม ลงนำเกมรุก ขณะที่ทีมเยือนมี แฮร์รี เคน, จามาล มูเซียลา, ลีรอย ซาเน เป็นตัวจริง

นาที 13 มาดริดน่าได้ประตูสุดๆ ดานี การ์บาฆาล จ่ายจากด้านขวาเข้าเขตโทษให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ยิงไปชนเสาสองเด้งมาเข้าทาง โรดรีโก ยิงซ้ำอีกที มานูเอล นอยเออร์ เซฟไว้ได้แบบใจหายใจคว่ำ

นาที 28 เป็นฝั่งบาเยิร์นที่มีโอกาสลุ้น กองหลังมาดริดสกัดบอลลอยมาบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษ แฮร์รี เคน จึงวอลเลย์สวนทันที ลูกไปแฉลบหัวคู่แข่งเล็กน้อยทำให้เปลี่ยนทางส่อจะเสียบมุม อังเดร ลูนิน ยังเหนียวพุ่งปัดได้ทัน

นาที 40 วินิซิอุส จูเนียร์ ขยับมารับบอลทางซ้ายแล้วเตะเข้ากลางเหมือนจะเปิดให้เพื่อน แต่วิถีบอลกลายเป็นว่าทำท่าจะตรงกรอบประตู มานูเอล นอยเออร์ ยังไวพุ่งปัดทิ้งได้หวุดหวิด มาดริดยังไม่ขึ้นนำ จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังนาที 53 ลูกบอลลอยมากลางสนามแล้วผู้เล่นมาดริดโหม่งสกัดไม่ดี แฮร์รี เคน จึงวิ่งตามไปถึงแล้วเบียดชนะกองหลัง จากนั้นจึงเลี้ยงเข้าเขตโทษแล้วสับไกยิง อังเดร ลูนิน พุ่งปัดไว้ไม่ให้บาเยิร์นได้ประตู

นาที 59 มาดริดได้ฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา โรดรีโก ปั่นด้วยขวาบอลลอยโค้งข้ามกำแพงตรงกรอบ มานูเอล นอยเออร์ พุ่งตัวปัดทิ้งได้อย่างยอดเยี่ยม

นาที 60 โอกาสของมาดริดมาถึงอีกครั้ง วินิซิอุส จูเนียร์ ได้บอลทางด้านซ้ายแล้วเลี้ยงจี้ใส่แนวรับเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะเลาะหาช่องแล้วยิงด้วยขวา มานูเอล นอยเออร์ ต้องกระโดดปัดทิ้ง

นาที 68 แฮร์รี เคน วางบอลออกกราบซ้ายให้ อัลฟอนโซ เดวีส์ เลี้ยงจี้เข้าพื้นที่เขตโทษ ก่อนจะสบจังหวะกระชากหนีกองหลังแล้วยิงด้วยขวาเสียบเสาสองอย่างสวยงาม บาเยิร์นนำ 1-0

นาที 71 มาดริดได้ลูกเตะมุมฝั่งขวา ลูกา โมดริช จ่ายเรียดมาบริเวณหน้าเขตโทษให้ เฟเดริโก วัลเวร์เด สับไกยิงแล้วลูกตรงเข้าหากลุ่มคน ก่อนจะไปแฉลบ อัลฟอนโซ เดวีส์ เข้าประตู

อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์พบว่า นาโช เฟร์นานเดซ ไปผลักใส่หน้า โยซัว คิมมิช ล้มลงก่อนที่บอลจากเท้าวัลเวร์เดจะตรงเข้ามา ทำให้มาดริดถูกเป่าฟาวล์และไม่ได้ประตูนี้

นาที 88 วินิซิอุส จูเนียร์ ยิงจากนอกเขตโทษเหมือนไม่อันตรายอะไร มานูเอล นอยเออร์ ที่ยืนรอรับอยู่กลับทำลูกกระฉอกออกมาจากมือเอง โฆเซลู จึงปราดเข้าซ้ำไม่เหลือซาก มาดริดตีเสมอ 1-1

นาที 90+1 นาโช เฟร์นานเดซ ไหลบอลออกไปทางด้านซ้ายของเขตโทษให้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ รับได้แล้วเปิดยัดเข้ากลางให้ โฆเซลู แปเผาขนไม่เหลือซาก มาดริดจึงแซงนำ 2-1

นาที 90+13 บาเยิร์นโยนบอลขึ้นหน้าแล้ว นูสแซร์ มาซราอุย พยายามสปีดตามไปเล่น แต่ถูกแนวรับมาดริดโหม่งสกัดมาเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ ส่งต่อให้ มัตไธส์ เดอ ลิกต์ ตวัดยิงเข้าไป แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ทำให้มาดริดชนะ 2-1 คว้าชัยสกอร์รวม 4-3

มาดริดจึงเข้าชิงชนะเลิศหนที่ 18 จากที่ก่อนหน้านี้ได้แชมป์ 14 ครั้ง และรองแชมป์ 3 ครั้ง โดยจะไปเจอกับโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ทีมจากเยอรมนีอีกราย เตะที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน ของอังกฤษ วันที่ 1 มิถุนายน