แม้จะไม่ถึงฝั่งฝันกับโพเดียมสูงสุดใน โอลิมปิกเกมส์ 2024 แต่เหรียญเงินของ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย มือ 8 ของโลกก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับ “ปรากฎการณ์” แล้ว
ในวันที่ 5 ส.ค. เวลา 2 ทุ่ม ถึงสามทุ่มกว่าๆ ว่ากันว่า การจราจรในกรุงเทพฯ โล่งเหมือนกับสมัยที่ เขาทราย กาแล็กซี่ ขึ้นชกในอดีตก็ไม่ปาน นี่คือผลงาน นักแบดมินตันไทย ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากที่ บุญศักดิ์ พลสนะ เคยทำได้ในฐานะอันดับ 4 โอลิมปิก 2004 เมื่อ 20 ปีก่อน
เป็นเหรียญจากกีฬาอื่น เหรียญแรก นอกเหนือจาก มวยสากลสมัครเล่น, ยกน้ำหนัก และ เทควันโด ขาประจำของไทยในโอลิมปิก
วิว ยกเครดิตให้โค้ชทุกคน และ ทีมงานทุกคนที่ช่วยให้ตัวเองมาถึงจุดนี้ โดยเฉพาะโค้ชเป้ง” เมตไตรย์ อมาตยกุล ซึ่งเป็นโค้ชคนแรก ที่ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2564 ไม่ทันได้เห็น วิว เดินทางมาไกลขนาดนี้
“ผมอยากจะบอกว่า ผมสามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกได้แล้ว แต่ว่า ยังไม่ตามความฝันของเรา แต่ว่าถ้าโดยรวมจริงๆ การที่ได้เหรียญโอลิมปิกเหรียญเงิน ก็ไม่แย่สักเท่าไหร่ อยากบอกว่า ผมก็เต็มที่แล้ว แล้วก็ฝากเป็นกำลังใจให้ในรายการ ออลอิงแลนด์ อีกรายการหนึ่ง ตอนนี้ก็ ถ้ามองตามความเป็นจริงก็ 2 เหรียญ จาก 3 ความฝันนะครับ ก็เหลือ ออลอิงแลนด์ อีกรายการ”
การคว้าเหรียญเงิน ของ วิว-กุลวุฒิ ทำให้เจ้าตัวยังเหลือพื้นที่ในการไล่ล่าความฝันต่อไป และมองว่า เหรียญเงิน นี้แม้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ แต่ยังไม่พอที่จะต้องฉลอง เมื่อถูกถามถึงงานเลี้ยง หรือ รถแห่รอบเมือง
“จริงๆถ้าได้เหรียญทองก็ว่าไปอย่าง แต่พอเป็นเหรียญเงินจึงคิดว่ายังไม่เหมาะที่จะฉลอง ส่วนอีก 4 ปีข้างหน้า ต้องหวังให้ได้เข้ามาเล่นก่อน และดูว่าสภาพร่างกายยังไหวไหม หรือมีอาการบาดเจ็บไหม”
แน่นอนว่า วิว-กุลวุฒิ จะยังไม่จบแค่นี้ กับประโยคที่โพสต์ไว้บนโซเชียลเน็ตเวิร์กว่า
“คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าพึ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์พึ่งเริ่มเขียนครับ”