จุฑามาศ จิตรพงษ์ ฉายฟอร์มเฉียบรัวพายุหมัดอัดนักชกแอลจีเรียพ่ายขาด ผ่านเข้ารอบ 2 เผชิญหน้า ยอดนักชกฟิลิปปินส์ ถือเป็นการคว้าชัยชนะคนที่ 3 ของขุนพลกำปั้นทีมชาติไทย ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 โตเกียวเกมส์ ที่ประเทศญี่ปุ่น

การชกเมื่อวันที่ 25 ก.ค.64 ที่เวทีมวย เรียวโกกุ โกกุกิคัง ในกรุงโตเกียว มวยสากลสมัครเล่นหญิง พิกัด 51 กก. “เจ้าเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงษ์ นักชกสาวหล่อของไทย ผู้ได้โควต้ามาโตเกียวเกมส์ แบบส้มหล่นเนื่องจากนักมวยเกาหลีเหนือขอถอนตัวก่อนหน้านี้ ลงสนามเป็นคนที่ 3 ของทีมกำปั้นไทย พบกับ รัวเมย์ซ่า บูอาลัม นักชกแอลจีเรีย

ทั้งคู่เป็นมวยถนัดขวา จุฑามาศ ของไทยวัย 23 ปี ใช้จังหวะความเร็วเข้าออกปล่อยหมัดหนึ่งสองทำแต้มเหนือกว่าคู่ชกทุกยก ครบ 3 ยก “เจ้าเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงษ์ ชนะคะแนน รัวเมย์ซ่า บูอาลัม จากแอลจีเรีย ขาดลอย 5-0 เสียง (30-27, 29-28, 29-28, 29-28 และ 30-27) ผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายไปพบกับ ไอริช แม็กโน ตัวอันตรายจากฟิลิปปินส์ ในวันที่ 29 กรกฎาคมต่อไป

เจ้าเฟี้ยว นับเป็นนักชกรายที่ 3 ต่อจาก ใบสน มณีก้อน และ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่ผ่านเข้ารอบ 16 คนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง จุฑามาศ ได้โควต้าใบสุดท้ายมาแข่ง มวยโอลิมปิกครั้งนี้แบบส้มหล่น เพราะโควตานี้มาจากการจัดอันดับ (Ranking) ของคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) แต่เนื่องมาจากการแข่งขัน World Qualify ที่ ฝรั่งเศส ถูกยกเลิกไป ทางคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) จึงใช้การจัดอันดับ (Ranking) แบ่งโควตานักกีฬาให้กับทวีปต่างๆ จึงทำให้กีฬามวยสากลมีนักกีฬาเข้าลุ้นเหรียญเพิ่มอีก 1 คน รวมทั้งนักชกเกาหลีเหนือที่ได้สิทธิ์ขอถอนตัวอีกด้วย
ทีมกำปั้นไทยยังเหลือโปรแกรมอีก1คน ได้แก่ รุ่น 60 กก. หญิง รอบ 16 คน สุดาพร สีสอนดี พบ Maria Jose Palacios Espinoza (เอกวาดอร์) ในวันที่ 27 กรกฎาคม 64 เวลา 13.39 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน