ทีมมวยกำปั้น ฟิลิปปินส์ มีอันต้องผิดหวังในการคว้าเหรียญทอง แต่ยังทำผลงานเหนือกว่า ทีมขุนพลเสื้อกล้ามของไทย ในโอลิมปิกเกมส์ 2020

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โตเกียวเกมส์ 2020 ที่ เวทีมวยเรียวโกกุ โกกุกิคัง ในนครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564 ความน่าสนใจที่สำคัญของแฟนมวยชาวไทย อยู่ที่การจับตาดู ผลงานของทีมมวยฟิลิปปินส์ และความหวังสุดท้ายในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้อยู่ที่ คาร์โล ปาอลัม ในรุ่นฟลายเวต ซึ่งดับความฝันของ เรียวเมอิ ทานากะ นักชกเจ้าภาพที่ถูกวิจารณ์หลังชนะคู่ชกโคลัมเบีย แต่กลับต้องนั่งรถเข็นหลังลงจากเวที

ในรอบชิงชนะรุ่นฟลายเวต ชาย นัดนี้ ปาอลัม แชมป์ซีเกมส์ 2019 และ ผู้ดับความหวัง “ฉีกตั๋ว”โอลิมปิก ธิติสรรค์ ปั้นโหมด ด้วยการล้มทับ “เจ้าเหลิม” ถึงสองครั้งระหว่างลงนวมซ้อมโค้งสุดท้ายในเมืองไทย จนนักชกไทยเอ็นเข่าขาด ต้องถอนตัวก่อนมาโตเกียวอย่างน่าเสียดาย

ในวันนี้ ต้องพบกับ กาลาล ยาฟาย นักชกสหราชอาณาจักร น้องชายอดีตแชมป์โลก คาลิต ยาฟาย (เสียแชมป์โลก WBA 115 ให้โรมัน กอนซาเลซ) มีดีกรีแชมป์เครือจักรภพ 2018 และ เหรียญเงินโอลิมปิก 2021 รอบคัดเลือก
การพบกันในรอบชิงชนะเลิศ โตเกียวเกมส์ครั้งนี้ ทั้งคู่แลกหมัดกันดุเดือดตั้งแต่ยกแรก ก่อนยาฟายจะจ้วงหมัดเต็มหน้าส่งปาอลัมลงให้กองคามุมให้กรรมการนับแปดปลายยกแรก ก่อนจะลุกขึ้นมาสู้ต่อและแลกหมัดกันดุเดือดจนครบสามยก กรรมการตัดสินให้ กาลาล ยาฟาย จากอังกฤษ เอาชนะคะแนน คาร์โล ปาอลัม จากฟิลิปปินส์ ไป 4-1 เสียง

ส่งผลให้ยาฟายคว้าเหรียญทองให้กับทีมสหราชอาณาจักร ทำผลงานรวมให้ทีมกำปั้นอังกฤษ คว้า 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง

ขณะที่ ปาอลัม ต้องผิดหวังได้เพียงเหรียญเงิน แต่ถือเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จของทีมมวยฟิลิปปินส์ ที่สามารถ คว้า 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง หลังจาก เนสตี้ เปเตซิโอ คว้าเหรียญเงินมวยหญิงในรุ่นเฟเธอร์เวต และ อูเมียร์ มาร์เซียล ได้เหรียญทองแดงจากรุ่นมิดเดิลเวตชาย ซึ่งถือเป็นผลงานดีที่สุด แม้ฟิลิปปินส์จะยังไม่เคยได้เหรียญทองจากมวยในโอลิมปิกมาเลยก็ตาม และก็ยังเป็นผลงานดีกว่าทีมกำปั้นของไทยในรายการนี้ ที่ทำได้เพียงเหรียญทองแดง เหรียญเดียวจาก “เจ้าแต้ว” สุดาพร สีสอนดี

ส่วนมวยรอบชิงชนะเลิศอีกคู่ รอบชิงชนะเลิศรุ่นฟลายเวต (48-51 กก.) หญิง บูเซ่ นาซ คากิโรกลู (ตุรกี) ผู้เอาชนะ จุฑามาศ จิตรพงศ์ ของไทยในรอบ 8 คนสุดท้าย พลาดท่าแพ้คะแนน สตอยก้า คราสเตว่า (บัลแกเรีย) 0-5 เสียง

รอบชิงชนะเลิศรุ่นมิดเดิลเวต (69-75 กก.) ชาย โอเล็กซานเดอร์ คีซเนี้ยค จากยูเครน ทำคะแนนนำ เฮเบิร์ต คอนไซเซา ซูซ่า (บราซิล) มาตลอดสองยก ก่อนจะบวกหมัดพลาดท่าถูกฮุคซ้ายเต็มหน้าถึงหงายผลึ่งร่วงให้กรรมการนับก่อนจะถูกยุติการชก โดนจับแพ้ไปในยกที่สามยกสุดท้าย ส่งผลให้ ซูซ่า จากบราซิลคว้าเหรียญทองไปครองอย่างพลิกล็อกสนุกดุเดือด

และ รอบชิงชนะเลิศรุ่นเวลเตอร์เวต (64-69 กก.) หญิง บูเซ่ นาซ ซูร์เมเนลี่ (ตุรกี) พบ กู่ หง (จีน) โดยนักชกแดนมังกรถูกนับแถมถูกตัดคะแนนยก 2 เกมเปลี่ยนทาง ครบสามยก ซูร์เมเนลี ชนะคะแนน 3-0 เสียง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน