ทนายชัยภูมิ ป่าแส ถามแม่ทัพภาค 3 ทำไมหลักฐานสำคัญหาย ที่เคยบอกว่าเห็นคืออะไร พล.ท.วิจักขฐ์ ยันต้องรอศาลตัดสิน อ้างภาพวงจรปิดที่มีไม่ได้อยู่ในจุดเดียวกับที่ยิง

ทนายชัยภูมิ / เมื่อวันที่ 9 ส.ค. กรณีสำนักงานเลขานุการกองทัพบก มีหนังสือลงวันที่ 6 ส.ค.61 ส่งถึงนายรัษฎา มนูรัษฎา อุปนายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน หนึ่งในทนายความคดีวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแส ว่า ไม่พบภาพใดๆ ในวันเกิดเหตุ นั้น พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ภาพวงจรปิดอยู่ที่พนักงานสอบสวนหมดแล้ว ไม่ได้มีอยู่ที่เรา ถูกส่งไปตั้งแต่เริ่มต้นแล้วของขบวนการสอบสวน จนทางศาลท่านไปพิพากษามาแล้ว

เมื่อถามว่าทางสำนักงานเลขานุการกองทัพบกได้ทำหนังสือทนายความนายชัยภูมิ ป่าแส ในช่วงวันที่ 17 มี.ค.60 ห้วงเวลา 10.00–10.10 น. เพื่อเปิดดู แต่ก็ไม่พบภาพข้อมูลใดๆของวันที่ 17 มี.ค.60 จึงไม่สามารถให้ไฟล์ภาพได้ พล.ท.วิจักขฐ์ กล่าวว่า ไม่พบอยู่แล้วเพราะกล้องไม่มีตรงนั้น กล้องวงจรปิดมีก่อนถึง ก็อย่างที่เคยเห็นกันนั้นละ มีคนเดินผ่านหน้ากล้องเฉยๆ และภาพทั้งหมดเราก็ส่งไปให้หมดแล้ว

“มันมี 4-5 คดีในเคสเดียวกันนี้ เราจะมามอบให้ได้อย่างไร ซึ่งภาพต่างๆเป็นวัตถุพยานในศาล เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือผมมีหน้าที่ส่งข้อมูลทั้งหมดเพื่อไปสู้คดี จริงๆแล้วตอนนี้ผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือ ฟังว่าศาลท่านตัดสินคดีว่าอย่างไรเท่านั้นเอง เพราะทุกอย่างเข้าไปอยู่ในกระบวนการยุติธรรมหมดแล้ว”พล.ท.วิจักขฐ์ กล่าว

ช่วงที่ค้นรถชัยภูมิ ป่าแส

ด้าน นายรัษฎา มนูรัษฎา กล่าวว่า คำตอบของกองทัพขัดแย้งกับคำให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ที่เคยบอกว่าดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว มาถึงตอนนี้กลับตอบมาว่าไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ อยากถามว่ามันคือภาพอะไรที่นายทหารระดับสูงได้เห็น คงต้องถามแม่ทัพภาคที่ 3 ว่า ทำไมพยานหลักฐานชิ้นสำคัญถึงหายไป

ต้องให้ทางเขาไปสืบสวนมาว่าใครทำให้มันหายไป และใครเป็นผู้ครอบครองตั้งแต่ตอนแรก มันหายไปได้ยังไง แล้วภาพที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าได้ดูแล้วเป็นภาพอะไร เมื่อรู้คำตอบกลับมาแล้วไม่รู้สึกผิดหวัง แต่เป็นห่วงในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ช่วยกันปกปิดแบบนี้ สำหรับในด้านคดีความต่อจากนี้จะฟ้องเเพ่งเรียกค่าเสียหายต่อหน่วยงานของรัฐที่กระทำให้บุคคลเสียชีวิต ให้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อประคับประคองให้ชาวบ้านที่ไม่ค่อยมีรายได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน