ทนายตั้มโพสต์เฟซบุ๊กอีกโต้ทนายครูปรีชา ใครแพ้คดีหวย 30 ล้าน ให้ลาออกจากอาชีพ พร้อมแจงข้อกำหนดมรรยาทให้ดูชัด
จากกรณีนายปรีชา ใคร่ครวญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ในคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัด ทั้ง 2 ฝ่ายมาไต่สวนมูลฟ้องนัดแรก เมื่อ วันที่ 4 มิ.ย. นัดที่สอง วันที่ 29 มิ.ย. นัดที่สาม วันที่ 23 ก.ค. และล่าสุดวันที่ 20 ส.ค. ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความส่วนตัวของร.ต.ท.จรูญ โพสต์เฟซบุ๊กทำนองว่านายปรีชารับสารภาพ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ก่อนที่ครูปรีชาจะออกมาโต้นายษิทราว่าเป็นโจทก์จะสารภาพได้อย่างไร และเตรียมฟ้องทนายษิทราเพิ่ม ต่อมานายษิทราโพสต์ท้าทนายความของครูปรีชาว่า หากใครแพ้คดีให้ลาออกจากการเป็นทนายความ แต่ทนายวรยุทธไม่รับคำท้า เพราะกลัวว่าสภาทนายความฯ จะเสียหายผิดมรรยาททนายความ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ‘ครูปรีชา’ ชี้ ‘ทนายตั้ม’ มโนเอง! ปมสารภาพคดีหวย30ล. จ่อแจ้งความเพิ่ม
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความส่วนตัวของร.ต.ท.จรูญ โพสต์เฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” ระบุว่า ลองมาศึกษามรรยาททนายความกัน การที่ผมท้าทนายวรยุทธ หากฝ่ายใดแพ้คดีให้เลิกเป็นทนายไม่มีข้อกำหนดมรรยาทข้อไหน บอกว่าเป็นการผิดมรรยาท แต่ที่ผิดมรรยาทมีแน่นอน 4 ข้อที่ชัดๆในข้อบังคับสภาทนายความเลยก็คือ
ข้อ 7.หากทนายความนำพยานเท็จ หรือหลักฐานเท็จเข้าสู่กระบวนพิจารณาในศาล
ข้อ 8.เสี้ยมพยานให้เบิกความเท็จ
ข้อ 9.ส่งเสริมให้มีการฟ้องร้องในคดีที่ไม่มีมูล
และข้อ 10(1) หลอกลวงลูกความว่าคดีจะชนะ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าแพ้แน่นอน
สรุปใครเป็นคนผิดมรรยาท แค่เปิดในกูเกิ้ลก็เจอข้อบังคับสภาทนายความง่ายๆแล้ว หัดสืบค้นทำความเข้าใจเรื่องมรรยาทซักนิด หรือรู้แล้วแต่แค่ปอดแหก เลยเบี่ยงประเด็นไม่ทราบ!!
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง