พี่แฉซ้ำ! นาที “ฤาษีตาไฟ” ลุกขึ้นคร่อม-ข่มขืนน้องสาว 4 ครั้ง ถ้าไม่ยอมจะตายยกครัว
จากกรณีพ่อแม่ของน.ส.เอ อายุ 17 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับร.ต.ท.หญิง ศิรินทรา บุญธรรม รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ ว่าลุกสาวถูกชายอ้างเป็น ฤาษีตาไฟ จะสะเดาะเคราะห์ให้ โดยพากันไปทำพิธีที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง อ.เมืองศรีสะเกษ โดยใช้เวลาสะเดาะเคราะห์ 2 วัน ก่อนชายคนดังกล่าวได้ข่มขืนลูกสาวถึง 4 ครั้ง พ่อแม่จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ก่อนชายคนดังกล่าวจะเข้ามอบตัวและประกันตัวไป โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 5 ก.ย. ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมืองศรีสะเกษ น.ส.จันที สมนา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครัวจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ครอบครัวของน.ส.เอ ทั้งพ่อ แม่ ลูก ได้เข้ามาอยู่ในความคุ้มครองดูแลของบ้านพักเด็กแล้วตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. ซึ่งตนและคณะได้ดูแลเยียวยารักษาสภาพอาการจิตใจของครอบครัวนี้อย่างเต็มที่ โดยนำครอบครัวผู้เสียหายไปพบนักจิตวิทยา เพื่อฟื้นฟูรักษาสภาพจิตใจ และนำทั้งครอบครัวไปกราบพระชื่อดังรูปหนึ่งที่อ.ยางชุมน้อย เพื่อใช้ธรรมะในการแก้ไขปัญหาความเชื่อเรื่องโชคลาง
ชายพิการอ้างฤาษีตาไฟ
น.ส.จันที กล่าวอีกว่า ขณะนี้สภาพจิตใจของครอบครัวผู้เสียหายอาการดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ว่ายังต้องดูแลพักฟื้นจิตใจอีกระยะหนึ่ง ส่วนเรื่องสถานที่เรียนของน.ส.เอนั้น กำลังจัดหาสถานที่เรียนให้ใหม่ เนื่องจากไม่ประสงค์จะไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนเดิม เพราะอับอายในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งกำลังดำเนินการจัดหาที่เรียนให้ใหม่ ส่วนเรื่องคดีความให้เป็นไปตามพยานหลักฐานของตำรวจ ซึ่งเชื่อว่าไม่นานอาการของครอบครัวผู้เสียหายจะเข้าสู่ภาวะปกติเช่นเดิม
อ้างชายพิการฤาษีตาไฟลุกขืนใจน้องสาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายสุรสิทธิ์ อายุ 40 ปี หนุ่มพิการอ้างเป็น ฤาษีตาไฟ ยังคงพักอยู่ที่บ้านละทาย ต.ละทาย อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หลังศาลจังหวัดศรีสะเกษให้ประกันตัวในการฝากขังผัดแรก 12 วัน และยังเก็บตัวเงียบไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ เนื่องจากญาติพี่น้องเห็นว่าจะทำให้การต่อสู้คดีนี้มีผลกระทบ โดยญาติยืนยันว่าจะต่อสู้คดีเพื่อความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ เนื่องจากเชื่อว่านายสุรสิทธิ์พิการมาแต่กำเนิด ช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้แล้วจะไปข่มขืนสาว 17 ได้อย่างไร
ด้านพี่สาวของเด็กสาววัย 17 ปี เผยถึงเรื่องราวครั้งนี้ โดยอ้างว่า สำหรับเหตุการณ์นี้เมื่อได้พูดคุยกับน้องสาว ทำให้ทราบว่าในวันเกิดเหตุนายสุรสิทธิ์เป็นคนขึ้นคร่อมน้องสาว โดยใช้เข่าและเอวพยุงตัวลุกขึ้น ก่อนจะข่มขู่น้องสาวหากออกจากห้อง ครอบครัวต้องตาย ทำให้น้องสาวเกรงกลัวและไม่กล้าขัดขืน โดยยืนยันว่าในช่วงนายสุรสิทธิ์ทำพิธี สามารถนั่งทำพิธีกรรมได้หลายชั่วโมง แถมยังใช้มือดันพื้นและใช้เข่าช่วยพยุงตัวเดินไปรอบๆบ้านได้ จึงชี้ชัดได้ว่า นายสุรสิทธิ์ไม่ได้พิการมากอย่างที่เห็น
