รวบแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่หญิงวัย 50 ปี รีดเงิน 25 ล้าน เหยื่อแฉถูกจับมัดตามัดมือจับไปขังไว้ในรีสอร์ตเชียงราย ตร.บุกช่วยได้ทัน ซัดทอดคนบงการใหญ่กลุ่มเครือข่ายยาบ้าที่ระแวงกันเอง เลยจับญาติพี่น้องบีบขอเงินค่ายาเสพติด
เมื่อเวลา 11.00 น. เมื่อวันที่ 5 ก.ย. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ. 5 นำตัว นางหลี่ เลาจาง อายุ 50 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง จ.เชียงใหม่ มาพร้อมกับลูกชาย แจ้งว่าตนเองนั้นถูกคนร้าย 5 คน หลอกให้มาคุยกันเรื่องเงินที่ บ้านอ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลังออกมาพบ ถูกคนร้ายอุ้มไปมัดตามัดมือ ก่อนนำตัวไปไว้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในอ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ต่อมา พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำกำลังบุกไปช่วย นางหลี่ เลาจาง ไว้ได้ และสั่งการไล่ล่าคนร้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทรงกริช ควบคุมตัวคนร้ายจำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายสิทธิศักดิ์ ไพศาลศิริกุล อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 1/85 หมู่ 10 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก 2.นายธีรธร ธิราสุวี อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 66 หมู่ 12 ต.สบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
และ 3.น.ส.หทัยรัตน์ พนารีลำไพ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 286 หมู่ 5 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งหมดเป็นชาวเขาเผ่าม้ง โดยเจ้าหน้าที่จับกุมทั้งหมดได้ในพื้นที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ต่อเนื่องกับพื้นที่ สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
เบื้องต้นแจ้งข้อหา พร้อมกับพวกที่หลบหนี “ร่วมกัน กับพวกที่หลบหนี เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หรือ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง”และผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหา “สมคบกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่า 20 กรัม ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 37/2555 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 และผู้ต้องหาที่ 2 ในข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต”
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายมาด้วยกันประมาณ 5 คน อุ้มนางนาหลี่ เลาจาง จากบ้านพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จากนั้นเรียกค่าไถ่จำนวนเงิน 25 ล้านบาท ซึ่งต่อมาลูกชายของนางหลี่ เตรียมเงิน 25 ล้านบาท ไว้แล้ว และแจ้งความกับตำรวจ จนกระทั่งซ้อนแผนจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ 3 คนคือ 1.นายสิทธิศักดิ์ ไพศาลศิริกุล 2.นายธีรธร ธิราสุวี และ 3.น.ส.หทัยรัตน์ พนารีลำไพ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน หลบหนีไปได้
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่า คนบงการให้อุ้มเรียกค่าไถ่ในครั้งนี้ คือ นายเปา ไม่ทราบชื่อจริงสกุลจริง ซึ่งหลบหนีไปได้ หากสำเร็จจะเอาเงินมาแบ่งเท่า ๆ กัน รวม 5 คน ตกคนละ 5 ล้านบาท แต่ความแตกเจอตำรวจซ้อนแผนจับได้เสียก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบแก๊งเหล่านี้ว่า เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายด้วยหรือไม่
พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภาค 5 เปิดเผยว่า พวกแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ครั้งนี้ มาจากสาเหตุที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งส่วนกลางและภาคเหนือ ภาคอีสาน จับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ได้คุย 8 ครั้ง และก็เป็นเครือข่ายเกี่ยวโยงกันมา และผู้ต้องหาอีกหลายคนก็หลบหนีไปได้ จากการขยายผลจับได้เฉพาะผู้คน คนขับ และคนรับ
ส่วนตัวการใหญ่ตอนนี้ยังจับไม่ได้ แต่ยึดของกลางไว้จำนวนมาก ทำให้พวกยาเสพติดนั้นเกิดระแวงกันเอง คิดว่ามีการหักหลังกันและเรียกร้องเงินค่าจำหน่ายยาเสพติด พวกที่รับมาจำหน่ายก็ไม่มีให้ และหลบหนีไปแล้ว พวกขบวนการยาเสพติดจึงมาอุ้มนางหลี่ แม่ของผู้ต้องหารายสำคัญที่หลบหนีคดียาเสพติด เพื่อบีบให้ลูกของนางหลี่หาเงินมาไถ่ตัวดังกล่าว
ต่อมาทางญาติของนางหลี่ เข้ามาร้องขอตำรวจดำเนินการช่วยเหลือ ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแผนนำเงินสดปลอมไปให้กับกลุ่มผู้ต้องหาที่รับจ้างมาอุ้มนางหลี่ โดยนัดหมายกันที่บริเวณเขตท้องที่ สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จับผู้ต้องหาได้ 2 คนผัวเมียและขยายผลไปช่วยเหลือนางหลี่ได้สำเร็จ
โดยถูกจับมัดไว้ที่รีสอร์ตในจ.เชียงราย พบคนเฝ้า 1 คน จึงนำตัวมาสอบปากคำที่ตำรวจภาค 5 เพื่อขยายผลจับกุมที่เหลือคนบงการจ้างต่อไป พวกนี้เป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดที่ระแวงกัน และจับญาติพี่น้องของผู้ร่วมขบวนการเพื่อบีบขอเงินค่ายาเสพติด