จากกรณีการหายไปของนายอลันด์ สก็อต ฮ็อก ชาวอังกฤษ กับ นางหน็อต สุดแดน ภรรยาชาวไทย ซึ่งหายไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจลงพื้นที่หาข่าวและคลี่คลายคดีอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่พบตัวของทั้ง 2 คน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรถกระบะฟอร์ด สี่ประตู สีขาว ทะเบียน 3181 แพร่ ซึ่งมีพ่อค้ารถชาวลาวได้นำมาส่งมอบให้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.แพร่ หลังอ่านพบข่าวว่าเป็นรถของสามีชาวต่างชาติ และภรรยาชาวไทยที่หายตัวไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นางหอม แม่นายธีรพล คนขับรถที่ถูกข่มขู่
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 24 ก.ย. เมื่อช่วงเช้าหลังตำรวจได้เบาะแสจากผู้ซื้อรถที่เป็นชาวลาวมีการเชื่อมโยงถึง นายธีรสิทธิ์ หรือนายประสิทธิ์ ถิ่นสุข อายุ 55 ปี เป็นผู้ที่ไปส่งรถ จึงได้นำตัวมาสอบปากคำ พร้อมกับ นางสมถวิล จุมพิต ภรรยา นายธีรสิทธิ์ จนทราบว่าเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 19 ก.ย. นายธีรสิทธิ์ เดินทางไปเป็นเพื่อน นายธีรพล สืบจากถิ่น อายุ 50 ปี ออกจาก ต.ช่อแฮ ไปยัง ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ เข้าไปในโครงการกาดน้ำทอง ไปที่ร้านจำหน่ายของเก่าและไม้เก่า อยู่ตรงข้ามสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแพร่ ทำให้นางสมถวิล รับทราบว่ามีการเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งจากการสอบปากคำทราบว่า นายวารุต รัตนสัจจกิจ หรือหนานหนัด พี่ชายของนางหน็อต เป็นผู้จ้างคนเหล่านี้ให้นำรถไปส่งเพื่อจำหน่ายที่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
ตำรวจตรวจรถของผัว-เมียฝรั่ง
ต่อมาเวลา 13.00 น.ชุดสืบสวนได้ไปนำตัว นายธีรพล และ นางหอม สืบจากถิ่น อายุ 76 ปี ยายของนายธีรพล มาสอบปากคำที่ สภ.พระธาตุช่อแฮ ในฐานะที่ นายธีรพล เป็นผู้รับจ้างจาก นายวารุต ที่ให้ไปหาเพื่อจ้างวานโดยตรง ที่ร้านขายของเก่าหน้าสำนักสงฆ์พระธาตุช่อแฮ และว่าจ้างให้ขับรถในราคา 3,000 บาท
ตำรวจตรวจรถของผัว-เมียฝรั่ง
การสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. นายวารุต นำรถออกจากที่จอดรถในบ้านของนายอลันด์ เวลา 06.00 น. ภาพวงจรปิดเทศบาลตำบลช่อแฮบันทึกไว้ได้ จากนั้นเดินทางไปที่โครงการกาดน้ำทองไปที่ร้านของเก่าของนายธีรสิทธิ์ และนางสมถวิล จอดรถของนายอลันด์ ไว้ที่ร้านนายธีรสิทธิ์ แล้วใช้รถเก๋งของนายธีรสิทธิ์ เดินทางย้อนกลับเข้ามาเส้นทางเดิมมารับนายธีรพล คนขับรถ จากนั้นไปใช้รถกระบะคันที่เป็นปัญหา เดินทางต่อไปยัง จ.ลำพูน นำรถไปส่งให้กับผู้ซื้อที่เป็นชาวกะเหรี่ยงแล้วเดินทางกลับ จากนั้นผู้ซื้อชาวกะเหรี่ยงขายรถให้กับชาวลาวในราคา 420,000 บาท ก่อนจะทราบจากข่าว จึงได้นำรถมาส่งมอบให้ตำรวจที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ด้านนางหอมกล่าวว่า ลูกชายถูกว่าจ้างในราคา 3,000 บาท ต่อการเดินทาง 1 เที่ยว ซึ่งราคาสูงมากกับการขับรถไปส่ง เวลาขายรถทั่วไปจ้างกันในอัตราไม่เกิน 500 บาทต่อเที่ยวเท่านั้น แต่ตนไม่อยากให้ลูกไป ลูกก็บอกว่าเที่ยวเดียว 3,000 บาทได้เงินเยอะเอาไว้ก่อน ตนจึงปล่อยให้ไป แต่เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายวารุต ไปหาตนพร้อมทั้งข่มขู่และไม่ให้บอกความจริงถึงการจ้างวาน ตนจึงทราบว่าการขับรถครั้งไปส่งครั้งนี้ของลูกชายมีปัญหาแล้ว วันนี้ตนถูกตำรวจเชิญตัวมาก็จะบอกความจริงทั้งหมดไม่ปิดบัง
ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนอย่างเคร่งเคลียด ในขณะเดียวกัน พ.ต.ต.เทวราช แก้วมา สว.สส.สภ.พระธาตุช่อแฮ พร้อมกำลังตำรวจ ตชด.ที่ 32 และสุนัขตำรวจ ออกลาดตะเวนจากบ้านของนายอาลันด์ ที่มีเนื้อที่บริเวณบ้านกว้างถึง 100 ไร่ และมีอาณาเขตติดกับป่า พล.ต.ต.สรรภัทร ปราบพุฒซา ผบก.ภจว.แพร่ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอเก็บพยานให้ครบถ้วนก่อน คงเป็นวัตถุพยาน และพยานแวดล้อม โดยเฉพาะทั้ง 2 คนที่หายไปต้องหาให้เจอก่อน วันนี้ลุยทั้งวันน่าจะแน่ชัดแล้วเป็นไปตามคาดการณ์ไว้ กำลังกระชับเข้ามาแล้ว คงอีกไม่นานประเด็นสำคัญต้องหาวัตถุพยานให้ได้เสียก่อน
อ่านข่าว ผัว-เมียเศรษฐีหายลึกลับ! ญาติให้พระ 2 วัดดูดวงชะตา บอกถูกฆ่าฝังดินริมห้วย
อ่านข่าว ช็อกเจอคราบเลือด! ในบ้านผัวเมียเศรษฐีแพร่หายตัวปริศนา พระ 2 วัด ทักบอกถูกฆ่าฝัง
อ่านข่าว หวั่นซ้ำรอย! ญาติห่วงผัว-เมียเศรษฐี หายตัวปริศนา เล่าอดีตน้องถูกปล้น-ฆ่าฝังดิน!
อ่านข่าว พบรถผัวเมียเศรษฐี พ่อค้าสปป.ลาว ซื้อต่อ ค้นบ้าน 100 ไร่ หาตัว เค้นสอบผู้ต้องสงสัย
