พีมูฟ สู้ต่อ ถวายฎีกา-ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ค้านพรบ.อุทยานฯ ชี้ละเมิดสิทธิชุมชน

เมื่อวันที่ 7 มี.ค. นายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ กล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาผ่านร่างพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. … ว่า รู้สึกผิดหวังกับสนช. เพราะกฎหมายอุทยานมีหลายมาตราที่ละเมิดสิทธิชุมชน ภาคประชาชนไม่มีส่วนร่วมมากพอ ไม่ครอบคลุมในการแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน

อีกทั้งเมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง สนช. ก็ไม่ควรมีอำนาจในการพิจารณากฎหมายที่ค้างกว่า 70 ฉบับ และให้การพิจารณากฎหมายที่ค้างคานั้นให้รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้พิจารณากฎหมายที่ยังค้างคาอยู่ทุกฉบับ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายประยงค์ กล่าวต่อว่า ร่างพ.ร.บ.อุทยาน แห่งชาติ พ.ศ…. และร่างพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ…. เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก และมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จึงสมควรที่ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ใช่ให้สนช. มาเร่งรัดการพิจารณาก่อนการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ และตลอดมามีการคัดค้านถึงความไม่ชอบธรรมของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้มาโดยตลอด

ร่างกฎหมายไม่มีบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิชุมชนในการใช้ประโยชน์เพื่อการยังชีพอย่างยั่งยืนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหรือพื้นที่ผ่อนปรนเพื่อการใช้ประโยชน์และบริหารจัดการร่วม จะทำให้ทำการประมง การเก็บหาอาหารเพื่อการยังชีพ หรือการหาของป่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าที่มีพื้นที่ทางทะเล และแหล่งน้ำจืดหรือการใช้สอยในพื้นที่ป่าของคนในชุมชนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีบทลงโทษที่หนัก

นายประยงค์ กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ มี 4 แนวทางในการเคลื่อนไหวเพื่อหยุดยั้งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ คือ 1.วานนี้(6มี.ค.) นำโดยคณะทำงานประชาชนเพื่อการอนุรักษ์และสิทธิชุมชน (คอส.) และกลุ่มเครือข่ายที่ต่อต้าน ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีก่อนมีการพิจารณาในวาระ 2 วาระ 3 โดยให้ระงับการพิจารณา และให้ชะลอการทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธย

2.คอส. และเครือข่าย จะร่วมรวบรวมรายชื่อประชาชนทั้งหมด ประมาณ 10,000 รายชื่อเพื่อถวายฎีกา โดยแสดงเจตนารมณ์ว่ากฎหมายฉบับดังกล่าวภาคประชาชนไม่ยอมรับ ปฏิเสธ อีกทั้งยังสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน

ที่ปรึกษาพีมูฟ กล่าวต่อว่า แนวทางที่ 3.ทางเครือข่ายฯ ได้ประสานความร่วมมือเสนอต่อพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดสัตยาบันว่ากฎหมายดังกล่าวไม่มีความชอบธรรมกับประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งได้ประสานไปยังพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์แล้ว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการร่วมหารือกันอย่างเป็นทางการ และจะเดินหน้าประสานความร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่นๆอีก

และแนวทางที่ 4.ทางเครือข่ายฯ จะยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับมีเนื้อหาที่ละเมิดสิทธิชุมชน และขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน