เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ก.พ. 60 พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจาก ส.ต.ต.อับดุลฆายูม อูเซ็ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.สุไหงโกลก ว่า ขณะขี่รถ จยย.หลังจากออกเวรเพื่อกลับบ้านพักในพื้นที่ ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี เมื่อผ่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ทหารพรานร้อย ทพ.4806 ซึ่งตั้งอยู่บ้านโคกสยา ม.5 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ได้พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ 4 ประตู รุ่นไทรทัน สีเทา ทะเบียน กค8906 นราธิวาส ซึ่งถูกคนร้ายได้บุกปล้นไปจาก อบต.โฆษิต ที่ในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งตลอดทั้งคืนในช่วงเข้าเวรได้ขี่รถยนต์สายตรวจตระเวนหาแต่ไม่พบ ซึ่งจอดอยู่ริมถนนข้างฐานปฏิบัติการณ์ย่อยของ กองร้อนทหารพรานที่ 4806

พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลก จึงสั่งให้ ส.ต.ต.อับดุลฆายูม แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารพรานเข้าตรวจสอบ ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าภายในรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ที่บริเวณเบาะหลังมีระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้งต้ม จำนวน 2 ถัง พร้อมทั้งมีสายไฟฟ้าได้ต่อวงจรไว้ เจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่วิทยุสื่อสารของ สภ.สุไหงปาดีให้รับทราบ

ต่อมา พ.ต.ท.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส เมื่อรับแจ้งเหตุจึงได้เดินทางมาตรวจสอบ เมื่อถึงที่เกิดเหตุจึงได้เปิดเครื่องรบกวนสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือและวิทยุสื่อสาร ก่อนที่จะใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงในการยิงทำลายกระจก พร้อมทั้งใช้หุ่นยนต์ในการให้เปิดประตูรถออกมา และใช้หุ่นยนต์ตัดสายไฟฟ้าและหนีบวงจรของระเบิดออกมาจากรถยนต์ หลังจากนั้นใช้เชือกมัดและดึงถังแก๊สทั้ง 2 ถัง ซึ่งลูกแรกมีน้ำหนัก66 ก.ก.ลูกที่ 2 มีน้ำหนัก 63 ก.ก. ออกมาจากรถไว้บนถนน เมื่อปลอดภัยแล้วเจ้าหน้าที่จึงเดินไปหยิบแกลลอนน้ำมันเบนซิลที่วางไว้ที่พักเท้าของเลาะหลัง จำนวน 4 ถังออกมาด้วยเช่นกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะยิงทำลายวงจรจุดชนวนระเบิดที่ต่อกับวิทยุสื่อสาร
ส่วนรถยนต์กระบะคันดังกล่าวหลังจากที่กลุ่มคนร้ายบุกปล้นมาจาก อบต.โฆษิต อ.ตากใบ คนร้ายได้ขับไปนำระเบิดน้ำหนักกว่า 120 ก.ก. ซุกซ่อนไว้ที่เบาะหลัง จากนั้นได้ขับมาตามถนนในหมู่บ้านลัดเลาะมาจากพื้นที่ อ.ตากใบ สู่ อ.สุไหงปาดี โดยมีเป้าหมายจะลักลอบแฝงตัวขับรถยนต์คาร์บอมบ์คันดังกล่าวไปก่อเหตุในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก แต่พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานตั้งจุดตรวจหน้าฐาน คนร้ายจึงตัดสินใจจอดรถยนต์กระบะทิ้งไว้ แล้วอาศัยความมืดหลบหนีไป

แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้เก็บรวบรวมลายนิ้วมือแฝงที่ติดไว้บริเวณต่างๆภายในรถ รวมไปถึงนิ้วมือแฝงที่ติดกับระเบิดแสวงเครื่อง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับที่เกิดเหตุ อบต.โฆษิต และแฟ้มประวัติบุคคลที่ก่อเหตุคดีความมั่นคง ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือไม่ เพื่อง่ายต่อการสืบสวนสอบสวนในการติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้แล้วการปฏิบัติการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4806 ในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากยุทธการล้อมเมืองรักษาถิ่น ที่ พ.อ.เฉลิมชัย สุทธินวล รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส เป็นผู้รับผิดชอบในการติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ที่ตั้งจุดตรวจในแต่ละพื้นที่อำเภอ เพื่อตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิดและบุคคลแปลกหน้าผ่านเข้าออกพื้นที่เขตชุมชนเมือง จนในที่สุดกลุ่มคนร้ายจึงต้องตัดสินใจจอดรถทิ้งไว้ เนื่องจากเกรงจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวพร้อมรถยนต์ของกลาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน