ไฟไหม้ปริศนาโบสถ์ 55 ปี วัดดังอ.ด่านขุนทด เผาวอดทั้งหลัง เผยพระลูกวัดมาทำความสะอาด พอมาเห็นถึงกับผงะ เจอรอยไฟไหม้ โต๊ะหมู่หน้าพระประธาน เสื่อ อาสนะ พระพุทธรูป พระประธานถูกไฟไหม้ดำเสียหายทั้งหมด ตร.เร่งหาสาเหตุ

ไฟไหม้โบสถ์ / เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ต.พิศิษฐ์ สังเกต สว.(สอบสวน) สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุจาก นายเดช ทูขุนทด ไวยาวัจกรวัดโคกรักษ์ว่า พบร่องรอยไฟกำลังไหม้อุโบสถของวัดโคกรักษ์ ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จึงรายงาน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด แล้วรีบรุดไปตรวจสอบ

พบเป็นอุโบสถที่ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2516 โดยมีพระครูสังวรานุรักษ์เป็นเจ้าอาวาส อายุ 93 ปี กำลังอาพาธ จากการสอบถามไวยาวัจกรคาดว่าระหว่างเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เกิดไฟลุกไหม้อุโบสถวัดบ้านโคกรักษ์

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา ยังมีการอุปสมบทที่อุโบสถดังกล่าวอยู่เลย ก่อนที่จะพบว่ามีไฟไหม้เจ้าอาวาสใช้พระลูกวัดมาหาลูกกุญแจที่อุโบสถเพื่อทำความสะอาด พอมาเห็นถึงกับผงะ เมื่อเจอร่องรอยไฟ และเขม่าควันไฟติดขอบหน้าต่าง ประตูอุโบสถ จึงเปิดเข้าไปดู ปรากฏว่ามีร่องรอยความเสียหายภายในอุโบสถ ตั้งแต่บริเวณโต๊ะหมู่หน้าพระประธาน เสื่อ อาสนะ พระพุทธรูปต่างๆ โคมไฟระย้า พระประธานถูกไฟไหม้จนดำ พัดลมที่ติดผนัง ละลายร่วงหล่นเสียหายทั้งหมด จากความร้อนทำให้เพดานและผนัง ซึ่งจิตรกรวาดรูปไว้ร่อน และร่วงหล่นเป็นแถบๆ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังหาสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้

เจ้าอาวาสวัดโคกรักษ์ กล่าวว่า จากการสอบถามพระลูกวัดและญาติโยมในละแวกวัด ไม่มีใครสังเกตเห็นเปลวเพลิงหรือควัน จึงไม่แน่ชัดว่าเกิดเพลิงไหม้เวลาใด สำหรับองค์พระประธานและพระพุทธรูปโบราณที่ถูกเพลิงไหม้ ไม่อาจประเมินค่าได้ ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ คาดว่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

จากการสอบถามพยาน ทราบว่า ปกติอุโบสถที่ถูกเพลิงไหม้จะปิดล็อกประตูทุกบาน โดยเจ้าอาวาสเป็นผู้เก็บรักษาลูกกุญแจไว้ แต่เมื่อจะให้คนเข้าไปทำความสะอาด กลับหาลูกกุญแจไม่เจอ ไปดูที่อุโบสถสังเกตเห็นว่าประตูบานหนึ่งไม่ได้ล็อก เมื่อผลักเปิดบานประตูเข้าไป ก็ต้องตกใจกับร่องรอยไฟไหม้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุเบื้องต้น อาจมาจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากวัดโคกรักษ์ สร้างขึ้นเมื่อปี 2507 ผนังก่อด้วยปูนซีเมนต์และยังไม่เคยเปลี่ยนสายไฟ ขณะที่ประตูหน้าต่างทั้ง 4 ทิศ ทำจากไม้เนื้อแข็ง จึงเกิดความร้อนสะสมอยู่ภายในอุโบสถ หรือต้นเพลิงอาจเกิดจากโต๊ะหมู่บูชาบริเวณกระถางธูปและเทียน แต่ยังไม่ตัดประเด็นการลอบวางเพลิงทิ้ง สืบเนื่องจากมีข้อพิรุธบางอย่าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อไขข้อเท็จจริงให้ปรากฏ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน