อธิบดีกรมอุทยานฯ แจงปม ขึ้นเงินเดือนภรรยา 6 เปอร์เซ็นต์ เผยมีกลไกสนับสนุนความโปร่งใส ระบุรอบการประเมินขึ้นเงินเดือน 6 เปอร์เซ็นต์ มีมากกว่า 10 ราย ป.ป.ช.ระบุไม่ใช่ความผิดร้ายแรง-ไม่มีอำนาจดำเนินการทางวินัย

จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีหนังสือถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้ดำเนินการทางวินัยกับนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่ามีการกระทำผิดต่ออำนาจหน้าที่ ในการเลื่อนขั้นเงินเดือนให้กับภรรยา 6 เปอร์เซ็นต์ ประจำรอบการประเมินที่ 1 (1 ต.ค. 2558 – 31 มี.ค. 2559) นั้น

ล่าสุดวันที่ 27 มิ.ย. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงว่า กระบวนการในการเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นการดำเนินการตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ด่วนที่สุด ที่นร. 1008.1/ว28 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2552 เรื่องการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ. ศ. 2551 โดยผู้บริหารหน่วยงานสามารถจัดสรรวงเงินให้กับหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ได้ กรมอุทยานแห่งชาติฯจึงได้จัดสรรวงเงินในการพิจารณาขั้นเงินเดือนของข้าราชการในสังกัด ให้กับผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ สามารถบริหารวงเงินในการพิจารณาขั้นเงินเดือนได้

นายธัญญา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อความรอบคอบ กรมอุทยานแห่งชาติฯได้ดำเนินการจัดทำประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการกรมอุทยานฯ มีกลไกสนับสนุนความโปร่งใสและเป็นธรรมในการพิจารณาขั้นเงินเดือน โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองผลการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ทั้งในระดับสำนัก กอง กลุ่มงาน และระดับกรม เพื่อเพิ่มความรอบคอบในการพิจารณาขั้นเงินเดือนอย่างรัดกุมแล้ว อีกทั้งในรอบการประเมินเดือนต.ค.2558 -มี.ค.2559 ก็มีผู้ได้รับการประเมินขั้นเงินเดือนในอัตรา 6 เปอร์เซ็นต์ มากกว่า 10 ราย ซึ่งเป็นการพิจารณามาจาก สำนัก กอง กลุ่มงาน และผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองฯแล้ว ก่อนที่จะมาถึงตน

นายธัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีป.ป.ช มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการแจ้งให้ทราบถึงผลการพิจารณาของป.ป.ช.ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 64 ซึ่งระบุว่า “ในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาเห็นว่าเรื่องที่มีการกล่าวหาเรื่องใด มิใช่เป็นความผิดร้ายแรง หรือกล่าวหาในเรื่องที่มิได้อยู่ในหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอํานาจแต่งตั้งหรือถอดถอนของผู้ถูกร้อง ดําเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอํานาจก็ได้”

นายธัญญา กล่าวว่า ดังนั้น จึงไม่ใช่หนังสือที่ป.ป.ช.สั่งลงโทษตนแต่ประการใด เนื่องจากป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ความผิดร้ายแรง หรืออาจเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในหน้าที่และอำนาจของป.ป.ช. จึงได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาเพียงเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน