แม่เด็ก 5 ขวบได้ลูกไปเลี้ยงแล้ว หลังถูก พ่อทุบตี ส่งคลิปว่อนโซเชียล เจรจาตกลงกันเรียบร้อย พ่อเด็กฉุนเดินออกจากห้องบอกทั้งน้ำตา อยากเลี้ยงลูก เพราะดูแลมาตั้งแต่เด็ก บอกไม่ยุติธรรม ลั่นไปถามลูกว่า ลูกต้องการอยู่กับใคร

จากกรณีน.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี นำคลิปอดีตสามีตีน้องเอ ลูกสาววัย 5 ขวบ สาเหตุเพราะทำขนมเปื้อนที่นอน และบอกว่าทำผิดต้องลงโทษ จากนั้นน.ส.เอ๋ นำคลิปไปลงในโลกโซเชียลและเข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ต่อมานางปวีณา ประสานพ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และนางเยาวพรรณ แช่มพุดซา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การช่วยเหลือน้องเอ และนำน้องเอไปดูแลที่บ้านพักเด็กฯ เพื่อรอน.ส.เอ๋ตกลงกับอดีตสามี เพื่อขอรับตัวลูกสาวกลับมาเลี้ยง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

พ่อทุบตี / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นางสิริวิมล ภู่หริย์วงศ์สุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) อุดรธานี, นางเยาวพรรณ แช่มพุดซา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ แยกซักถามน.ส.เอ๋ และอดีตสามี ทั้ง 2 ฝ่าย

นายต้อม (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ชาวอ.เมือง จ.อุดรธานี พ่อของน้องเอ มาเพื่อเจรจาตกลงกันเรื่องของการรับ น้องเอวัย 5 ขวบ ว่าจะไปอยู่กับใครโดยมี พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เป็นสักขีพยาน

นางสิริวิมล สอบถามน.ส.เอ๋ ถึงอาชีพและความเป็นอยู่ปัจจุบัน รวมถึงตอนใช้ชีวิตอยู่กับ อดีตสามี ซึ่งทั้ง 2 คนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และแยกทางกันตอน ลูกอายุ 3 ขวบ โดยฝ่ายแม่เด็ก ไม่ได้นำลูกสาวไปด้วย เพราะยังไม่มีงานทำ จึงให้ลูกสาวอยู่กับพ่อ แต่ก็ได้ติดต่อกันทางโทรศัพท์เป็นประจำ มาในช่วงนี้น.ส.เอ๋ได้งานเป็นแคชเชียร์ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี และส่งเงินมาเลี้ยงดูลูกสาวมาตลอด จนกระทั่งอดีตสามีส่งคลิปทุบตีทำร้ายลูกสาวและใช้คำพูดไม่สุภาพต่อลูก ทำให้ทนไม่ได้ ต้องการนำลูกไปเลี้ยงดูเอง จึงได้เข้าร้องเรียนต่อมูลนิธิปวีณา ให้ช่วยเหลือ

ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมเจรจาตกลงกันว่าใครจะได้เป็นผู้ดูแล ลูกสาววัย 5 ขวบ โดยไม่อนุญาตให้ ผู้สื่อข่าวอยู่ร่วมรับฟัง ใช้เวลานานประมาณ 1 ชม.

จากนั้นนายต้อม ก็เดินออกมาจากห้องที่ใช้เจราจา และลงจากโรงพักโดยไม่ทราบสาเหตุ ผ่านไปอีก 1 ชม. จึงเจรจาตกลงกันเสร็จ

พ.ต.อ.สรายุทธ เปิดเผยว่า ได้ลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานว่า ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงยินยอมให้น.ส.เอ๋เป็นผู้มีสิทธิเลี้ยงดูลูกสาวตามกฎหมาย โดยมีแม่และพี่สาวนายต้อม เป็นผู้ลงชื่อยินยอม ส่วนนายต้อม ไม่ยอมลงชื่อ และเดินออกจากห้องไป โดยน.ส.เอ๋จะนำลูกสาวไปให้แม่ของตัวเป็นผู้ดูแลที่ จ.นนทบุรี ซึ่งทางพมจ.อุดรธานี จะประสานไปยังพมจ.นนทบุรี ให้ช่วยติดตามดูแลน้องเอ เพื่อดูว่าเด็กจะอยู่ได้หรือไม่ และมีสภาพจิตใจเป็นเช่นไรต่อไป

ขณะเดียวกันนายต้อม เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เสียใจที่ลูกไปอยู่กับเขา ตนเลี้ยงมากับมือรักและผูกพัน กันมาก การที่ผมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดี มันผิดตรงไหน ไปถามลูกให้หน่อยว่า ลูกต้องการอยู่กับใคร มันไม่ยุติธรรมกับตนเลย ตนอยากเลี้ยงลูก เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ถ้าถามลูกว่าอยากอยู่กับใคร แล้วลูกตอบว่าอยากอยู่กับแม่ ตนก็ยินยอม เมื่อเอาลูกไปจะอยู่อย่างไร สังคมใหม่จะปรับตัวได้ไหม รู้ว่าแม่เขาเป็นคนอย่างไรนิสัยอย่างไร เด็กจะมีความสุขหรือไม่ ให้สิทธิตนไปเยี่ยมลูกได้ แต่คงไม่ไป เพราะอยู่คนละจุดแล้ว คิดว่าอาจจะเป็นกรรมของลูก

“ผมตีสั่งสอนลูก คนที่เจ็บคือผม ส่งคลิปไปให้ดู เพราะอยากให้ดูว่าผมเลี้ยงลูกอย่างไร ไม่ต้องโทรมา เพราะเขามีสามีใหม่แล้ว จะเข้าใจผิด ผมอยากสู้ถ้ามีคนช่วยผม ผมเลี้ยงลูกมากับมือทั้งชีวิต ส่วนแม่เขาไม่เคยสนใจ ทิ้งผมกับลูกไปมีครอบครัวใหม่ ผมเคยทำทุกอย่างเพื่อเขา แต่เขาไม่เคยมองเห็น ความรู้สึกเด็กเขาก็ไม่เข้าใจ เอาแต่ความรู้สึกตัวเอง ผมอยากให้ลูกอยู่ที่นี่ ลูกไปอยู่ที่ใหม่ สังคมคนกรุงเทพฯ ผมไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่สังคมบ้านนอกรู้จักความรัก ความเผื่อแผ่ เข้าวัดฟังธรรม อยากบอกสื่อว่าอย่าเข้าใจผิด” นายต้อม กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ส่วนน.ส.เอ๋หลังจากเจรจาเสร็จ ออกมาจากห้องแล้ว ก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวที่พยายามจะขอสัมภาษณ์ บอกแต่เพียงว่า จะรีบไป ซึ่งอาจจะไปกับเจ้าหน้าที่ เพื่อไปรับลูกสาว ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวอุดรธานี เพื่อเอาไปดูแลที่จ.นนทบุรี ต่อไป

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน