จับสึกแล้ว หลวงเจ๊ เจ้าอาวาสคลิปฉาว เจอข้อหาอนาจาร รวบอีก 2 ให้ที่พักพิง ญาติเผยพระครูชอบรักใคร่เอ็นดูเด็ก ส่งเสียเรียบจบมาหลายคนแล้ว

กรณีโลกโซเชียลมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ โอบกอดพนักงานชาย ภายในร้าน จนมีการแชร์ไปอย่างแพร่หลาย โดยชายที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ หน้าตาคล้ายเจ้าอาวาสวัดจอมศรี ต.น้ำร้อน อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ต่อมาเจ้าอาวาสวัดจอมศรี ยอมรับว่าเป็นตนเองจริง ทำไปด้วยความเอ็นดู จากนั้นมีชาวบ้านรวมตัวกับขับไล่ออกจากวัด รวมทั้งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ก่อนที่ตร.จะบุกจับพระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดจอมศรี ได้ที่วัดแห่งหนึ่งในอ.หล่มสัก ก่อนนำตัวมาสอบสวน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

หลวงเจ๊ / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามการค้ามนุษย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเพชรบูรณ์ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ นำหมายศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ จ.67/2562 ลงวันที่ 30 กันยายน 2562 เข้าจับกุมตัว พระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดจอมศรี ในข้อหากระทำอนาจารผู้อายุกว่า 18 ปี โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

พร้อมด้วยจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 รายคือ 1.นายสุพจน์ ภาพสิงห์ อายุ 34 ปี และ 2.นายวีรยุทธ กงถัน อายุ 32 ปี ในข้อหาพาผู้ต้องหาหลบหนีและให้ที่พักพิง จากนั้นนิมนต์มาลาสิกขากับเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่วัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) เสร็จแล้วนำตัวอดีต พระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ หรือ นายประมิตร มีบุญมา อายุ 54 ปี พร้อมด้วยนายสุพจน์ ภาพสิงห์ อายุ 34 ปี และนายวีรยุทธ กงถัน อายุ 32 ปี คนขับรถ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพหรือสัมภาษณ์แต่อย่างใด

ทั้งนี้นายสุพจน์ ภาพสิงห์ อายุ 34 ปี หรืออดีตพระครูวินัยธรสุพจน์ กล่าวหลังจากเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า ตนรู้จักกับพระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดจอมศรี มาระยะหนึ่งแล้ว ปกติจะจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก แต่มาในพรรษานี้มาจำพรรษาอยู่กับพระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ ที่วัดจอมศรี เพื่อเตรียมจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิต ซึ่งโดยปกติแล้วพระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ เป็นคนที่มีลักษณะกระตุ้งกระติ้ง

ส่วนที่จะมีอะไรกันนั้น ตนไม่ขอพูดให้ไปสอบถามหลวงพ่อเอง ที่ผ่านมาหลวงพ่อก็ช่วยสังคมมามาก ภาพคลิปการโอบกอดพนักงานนั้น ตนรู้ดีว่าเป็นการไม่เหมาะสมโลกติเตียน แต่ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ศาสนามัวหมองตนและหลวงพ่อจึงขอลาสิขา เพื่อมาต่อสู้คดีในทางโลก ส่วนภาพในคลิปที่มีพระรูปหนึ่งนำซองขาวไปให้พนักงานผู้หญิงที่ร้านนั้น ยอมรับว่าเป็นตนเอง แต่ไม่ได้ที่จะให้ปิดเรื่องแต่อย่างใด เป็นการขอโทษมากกว่า

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ด้าน น.ส.ภาพมณี โชติภาสโสภิต ญาติของอดีตพระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ กล่าวว่า พระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ เป็นผู้ที่รักใคร่และเอ็นดูเด็ก ที่ผ่านมาส่งเสียให้เรียบจบมาหลายคนแล้ว รวมทั้งสร้างคุณประโยชน์แก่ ต.น้ำร้อนอย่างมากมาย ส่วนคลิปที่ปรากฏออกมานั้นเป็นการโอบกอดผู้ชายด้วยความเอ็นดู และก็ไม่ได้กอดสีกาแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่มีการเดินขบวนไล่เจ้าอาวาสนั้น เนื่องมาจากมีชาวบ้านบางส่วนที่เสียผลประโยชน์ จึงต้องการกำจัดให้ออกจากพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศของการนำตัวของพระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ มาลาสิขาที่วัดมหาธาตุนั้น ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำพระขึ้นรถและขับหลบหนีการติดตามทำข่าวของสื่อมวลชนอย่างรวดเร็ว เมื่อลาสิขาแล้วก็นำมาสอบสวนที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ หรือสัมภาษณ์อดีตพระครูวิเชียรปัญญาภรณ์แต่อย่างใด

ทั้งนี้ แจ้งข้อหาพระครูวิเชียรปัญญาภรณ์ หรือนายประมิตร มีปัญญา คือกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายตามคลิปภาพที่ปรากฎในโซเชียล

และแจ้งข้อหา นายสุพจน์ ภาพสิงห์ อายุ 34 ปี และนายวีรยุทธ กงถัน ว่ากระทำผิดฐานร่วมกันช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษโดยให้พำนักแก่ผู้นั้นโดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นโดยประการใดเพื่อไม่ให้จับกุม โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน