ชาวไร่ยาสูบ วอนคลังเลื่อนขึ้นภาษี 40 % ลดผลกระทบภัยแล้ง–โควิด19

วันที่ 23 เม.ย. นายสุครีพ บุญชุ่ม นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์จังหวัดสุโขทัย และตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่ชาวไร่ยาสูบเกือบ 50,000 ครอบครัวถูกลดโควตาการปลูกใบยาสูบในอัตรา 47 % ถึง 2 ปีซ้อน คือปี 2561 และ 2562 ชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศสูญเสียรายได้ไปรวมกันมากกว่า 1,560 ล้านบาท คิดเป็นผลผลิตประมาณกว่า 12 ล้านกิโลกรัม

และปีนี้ 2563 บางจังหวัดเช่น สุโขทัย ยังประสบกับภาวะภัยแล้งที่รุนแรงในหลายพื้นที่ และทุกจังหวัดยังเจอปัญหาจากโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซาอย่างหนัก ขาดเงินหมุนเวียน เกษตรกรชาวไร่ยาสูบจึงได้มีหนังสือไปถึงรัฐบาลให้ช่วยเหลือโดยขอให้เร่งจ่ายเงินชดเชยรายได้ที่หายไปจากการที่ชาวไร่ยาสูบถูกลดโควตาปลูกใบยาสูบ และขอให้รัฐบาลเลื่อนการขึ้นภาษียาสูบ 40% ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 นี้ออกไปก่อน

ล่าสุด กรมสรรพสามิต มีหนังสือตอบกลับข้อร้องเรียนของชาวไร่ยาสูบ ระบุว่า กระทรวงการคลังได้ออกกฎกระทรวงไปแล้ว และตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 ให้เก็บภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 40 ส่วนการพิจารณาจ่ายเงินชดเชยรายได้จากการที่เกษตรกรถูกลดโควตาปลูกใบยาสูบเป็นหน้าที่พิจารณาของการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จดหมายที่ตอบกลับมาแบบนี้เท่ากับเป็นการปฏิเสธการช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศอย่างสิ้นเชิง และยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนเกษตรกรชาวไร่ยาสูบหนักเข้าไปอีก พวกท่านในรัฐบาลทราบกันหรือไม่ว่า ก่อนหน้านี้มีชาวไร่ยาสูบ จ.สุโขทัยรายหนึ่งเขียนจดหมายลาตายก่อนจะผูกคอตายจบชีวิตตนเอง เนื่องจากเครียดกับปัญหาหนี้สินและผลผลิตเสียหายจากภัยแล้ง นี่เป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจอย่างมากที่ชาวไร่ยาสูบต้องมาฆ่าตัวตายทั้งที่ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้กับชาวไร่ยาสูบมาก่อน” นายสุครีพ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่พิจารณาอนุมัติเงินชดเชยรายได้และไม่เลื่อนการขึ้นภาษี 40% ออกไป ย่อมเกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเกษตรกรที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมต้นน้ำ นั่นคือ การปลูกใบยาสูบ กระทบต่ออาชีพทำกินชาวไร่ยาสูบกว่า 50,000 ครอบครัวทั่วประเทศ

เศรษฐกิจในชุมชนจะยิ่งหดตัว เช่น จังหวัดสุโขทัย ที่เคยทำรายได้จากการขายใบยาสูบได้มากกว่า 800 ล้านบาทต่อปี ตัวเลขแบบนี้จะไม่มีอีกแล้ว พวกเราชาวไร่ยาสูบร้องเรียนความเดือดร้อนจากผลกระทบเรื่องภาษีมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่าสองปี จนถึงตอนนี้เราเริ่มจะสูญเสียความเชื่อมั่นในรัฐบาลไปแล้ว

“ตอนนี้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ เพราะสถานการณ์โรคระบาดมีความรุนแรง ชาวไร่ยาสูบก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ไม่ต่างจากคนอื่น ทั้งยังเป็นความเดือดร้อนซ้ำเติมความทุกข์ที่มีอยู่แล้วจากผลกระทบภาษีบุหรี่ ผมคิดว่าการเลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่ในเดือนตุลาคมนี้ออกไป ไม่ได้ทำให้รัฐเสียหายอะไรเลย แต่ถ้ารัฐบาลเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ ชาวไร่ยาสูบคงอยู่ไม่ได้และคงไม่สนับสนุนรัฐบาลที่ออกมาตรการทำร้ายพวกเราแบบนี้

“ในฐานะตัวแทนเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ ผมขอร้องให้ท่านอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ช่วยดูแลกลุ่มเกษตรกรชาวไร่ยาสูบด้วย ท่านต้องไม่ทิ้งเราไว้ข้างหลัง การขึ้นภาษีเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม และภาษีบุหรี่ของไทยตอนนี้ก็สูงมากอยู่แล้ว ชาวไร่ยาสูบเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำอีกเพราะภาษี

ขณะที่ท่านออกมาตรการช่วยเหลือทุกคนในหลายภาคส่วนแต่กลับไม่มีใครเหลียวแลเกษตรกรชาวไร่ยาสูบซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลังเองอย่างพวกเราเลย” นายสุครีพ กล่าวในตอนท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน