ย่าของด.ญ.วัย 13 ปี เชื่อ น้าสะใภ้เป็นนกต่อ ล่อลวงหลานสาวออกไปให้หนุ่ม ขืนใจ ภายในวัดจนท้อง แฉซ้ำ! ถูกโทรขู่ ยืนยันหลานไม่เคยทำตัวเหลวไหล

จากกรณีครอบครัวของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ว่าถูก นายแบงก์ อายุประมาณ 20 ปี ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเราภายในวัดแห่งหนึ่งจนตั้งครรภ์ โดยเชื่อว่า น้าสะใภ้เป็นนกต่อปลุกหลานออกไปช่วงเวลากลางคืนจนเกิดเหตุดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดวันที่ 8 พ.ค. นางฝาก (นามสมมติ) อายุ 58 ปี และ นางณา (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นย่าของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า โดยปกติด.ญ.เอซึ่งเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ และอาศัยอยู่กับตนมาตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กนิสัยเรียบร้อยไม่เคยเที่ยวเตร่ หากจะเดินทางไปไหนก็จะให้ตนหรือคนในครอบครัวไปเป็นเพื่อน

ในพื้นที่หมู่บ้านของเหยื่อที่ถูกลวง ขืนใจ

ในพื้นที่หมู่บ้านของเหยื่อที่ถูกลวง ขืนใจ

นางฝาก กล่าวต่อว่า ส่วนน.ส.นุส (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นน้าสะใภ้ของด.ญ.เอได้เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของตนตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุไม่นาน ทำให้ด.ญ.เอและน.ส.นุสค่อนข้างจะใกล้ชิดกัน แต่เนื่องจากน.ส.นุสซึ่งเป็นแฟนกับลูกชายของตน มีพฤติกรรมไม่ค่อยดี มีผู้ชายเข้ามาติดพันหลายคน และมักจะออกไปเที่ยวเตร่กับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ตนเคยพยายามบอกให้ลูกชายเลิกกับน.ส.นุส แต่ลูกชายก็ไม่เชื่อฟัง

“กระทั่งวันเกิดเหตุ ขณะที่ย่านอนอยู่ที่กระต๊อบหน้าบ้าน น.ส.นุสซึ่งนอนอยู่ภายในบ้าน ได้ชักชวนด.ญ.เอซึ่งนอนอยู่ใกล้กันให้ปีนหน้าต่างเพื่อไปขึ้นรถของเพื่อนชาย โดยอ้างว่าจะพาไปกินก๋วยเตี๋ยวในช่วงเวลาประมาณตีสอง ซึ่งเมื่อเดินลัดเลาะคันนาออกไปขึ้นรถ กระบะที่มาจอดรออยู่ นายแบงก์ซึ่งเป็นคนขับรถก็ได้พาด.ญ.เอไปข่มขืนที่สนามกีฬาภายในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่” ย่า กล่าว

นางฝาก กล่าวว่า กระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือน ตนจึงมาทราบเรื่อง และพาด.ญ.เอเข้าไปแจ้งความดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ตนมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด.ญ.เอนั้นถูกน.ส.นุสล่อลวงไปให้กับนายแบงก์เป็นคนลงมือก่อเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมา ด.ญ.เอไม่เคยมีพฤติกรรมเที่ยวเหลวไหล แต่ที่ออกไปกับน.ส.นุสน่าจะเป็นเพราะความเชื่อใจเพราะเห็นว่าเป็นน้าสะใภ้ จึงไม่คิดว่าจะล่อลวงไปให้เกิดอันตรายอย่างที่เกิดขึ้น

ตาของผู้เสียหายชี้จุดที่เป็นที่นอนของหลานสาว

ตาของผู้เสียหายชี้จุดที่เป็นที่นอนของหลานสาว

นางฝาก กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ตนก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามดำเนินคดีกับน.ส.นุสที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนนกต่อล่อลวงหลานสาวของตนให้ไปถูกข่มขืนกระทำชำเราให้ได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นางณา กล่าวว่า วันที่เดินทางไปแจ้งความ นายแบงก์ที่รู้ข่าวได้โทรศัพท์เข้ามา พร้อมพูดจาต่อว่าตนที่พาด.ญ.เอไปแจ้งความ และยังพูดจาข่มขู่ว่าจะทำร้ายตนและด.ญ.เอ ทำให้ตนเกิดความกลัวว่าจะถูกนายแบงก์และพวกเข้ามาทำร้าย อีกทั้งนายแบงก์ยังพยายามพูดจาว่าร้ายหลานสาวของตนว่าอาจจะไม่ได้ตั้งท้องกับนายแบงก์ก็ได้ ทั้งที่หลานสาวของตนไม่เคยประพฤติตัวเหลวไหลหรือออกไปเที่ยวเตร่กับผู้ชายคนอื่น

“เรื่องนี้สร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัวของเราอย่างมาก เพราะนอกจากหลานสาวที่เป็นความหวังของครอบครัวต้องมาถูกข่มขืนกระทำชำเราจนตั้งท้อง ต้องเสียอนาคตแล้ว ยังต้องมาถูกผู้ก่อเหตุที่ไม่รู้สำนึกผิด พูดจาข่มขู่ว่าร้ายสร้างความเสื่อมเสียให้กับครอบครัวอีก เรื่องนี้จึงอยากฝากถึงตำรวจให้ช่วยติดตามดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด และครอบครัวยืนยันว่าจะไม่มีทางเจรจายอมความในเรื่องนี้อย่างแน่นอน” นางณา กล่าว

ย่าชี้บริเวณหน้าต่างที่ปีนออกไป

ย่าชี้บริเวณหน้าต่างที่ปีนออกไป

___________________________________________________________

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน