ประดาน้ำภาค 7 พร้อมทีม ปราบอสรพิษ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ลุยล่าจับจระเข้ ผงะเจออีกตัวใหญ่กว่าเดิม ลั่นจะพยายามจับเป็น แต่หากเป็นอันตรายกับจนท. ก็จำเป็นต้องจับตาย
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
วันที่ 19 ม.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามจับ จระเข้ขนาดใหญ่ ลำตัวยาวกว่า 2 เมตร โดยชาวบ้านออกไปตกปลาแล้วพบ ลอยตัวลักษณะกำลังจะอาบแดด ริมคลองท่าสาร-บางปลา หมู่ 9 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ช่วงสายวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ออกค้นหาจับแล้วแต่ยังไม่สามารถจับได้
- อ่าน “ด่วน” จนท.ระดมล่า จระเข้ คลองท่าสาร 2 วัน จับไม่ได้ ผงะเจออีกตัวใหญ่กว่าเดิม
- อ่าน เกือบตาย! งมหาโดรนโดนชอร์ตตกน้ำ จ๊ะเอ๋ไอ้เข้ 2 เมตร ต่างฝ่ายต่างว่ายน้ำหนี ไม่ได้มีตัวเดียว
- อ่าน แค้นเกาะแกะเมีย! หนุ่มปลิดชีพโหดพ่อเลี้ยงลากศพหมกป่า ตร.เห็นพิรุธ
ล่าสุดวันนี้ นายเฉลิมพนธ์ หงษ์ยนต์ ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำ ภาค 7 พร้อมทีมงาน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกา ล่องเรือสำรวจไปตามริมฝั่งแม่น้ำ ห่างจากจุดที่พบจระเข้ครั้งแรก ประมาณ 500 เมตร ปรากฏว่าพบจระเข้ตัวยาวกว่า 3 เมตร อาบแดดอยู่บนฝั่งที่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม แต่ก็ไม่สามารถจับได้เนื่องจากจระเข้วิ่งลงไปใต้ท้องน้ำที่มีความลึกประมาณ 4 เมตรได้ทัน
ต่อมาเวลา 15.23 น. นายอนุชา หอยสังข์ นายอำเภอท่ามะกา น.ส.ธิราวัณ โพธิเพชร หัวหน้ากลุ่มงานบริหารประมงจังหวัดกาญจนบุรี นางวิจิตตรา ผินอินทร์ ประมงอำเภอท่ามะกา ตำรวจ สภ.ท่าเรือ รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น นายเฉลิมพนธ์ และทีมงานของ นิค หรือ นายนิรุทธ์ ชมงาม เจ้าของฉายา “มือปราบอสรพิษ” ร่วมปรึกษาการจับจระเข้ หลังนำโครงไก่สดไปแขวนไว้ตามริมตลิ่งล่อจระเข้ให้ออกมากินเพื่อจะทราบได้ว่า จระเข้ว่ายน้ำวนเวียนอยู่บริเวณใด และเชื่อว่ามี 2 ตัวเป็นอย่างต่ำ
นายอำเภอท่ามะกา กล่าวว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอท่ามะกา เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ประมงอำเภอท่ามะกา ร่วมกันประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามจับให้ได้เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน ครั้งแรกเจอจระเข้เพียงแค่ตัวเดียว จากนั้นมีข่าวว่าเจอจระเข้เพิ่มขึ้นมาอีก 3-5 ตัว แต่อยู่คนละที่กัน วันนี้ทางทีมงานชมรมกู้ภัยทางน้ำภาค 7 นำเรือออกไปสำรวจและพบจระเข้ตัวยาวถึง 3 เมตรกว่า
“การวางแผนจับจระเข้ จะจับเป็นหรือจับตายนั้น ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน เพราะขณะนี้นำในลำคลองมีเป็นจำนวนมาก ทำให้การจับค่อนข้างยาก แต่ถ้าพบจระเข้อยู่บนตลิ่ง ตามหลักถ้าจับเป็นได้ก็ต้องจับเป็น แต่ถ้าหากมันมีความเสี่ยงและจำเป็นจริงๆก็อาจจะมีกระบวนการอื่นต่อไป เบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้นำท้องที่ ประชาสัมพันธ์ห้ามไม่ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองลงไปเล่นน้ำหรือทำอะไรก็แล้วแต่ในคลองช่วงนี้ เพราะเราไม่รู้เลยว่าจระเข้จะไปโผล่ขึ้นที่ตรงไหน”
จากนั้นเวลา 17.30 น. ทีมค้นหาออกสำรวจพื้นที่ปรากฎว่า พบร่องรอยเท้าจระเข้ริมฝั่งและยังพบมูลของเสียที่จระเข้ขับถ่ายออกมากองอยู่ด้วย โดยค่ำคืนนี้ มือปราบอสรพิษ พร้อม นายเฉลิมพนธ์ หเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จะสนธิกำลังนำเรือยนต์ลาดตระเวนไปตามลำคลอง หากพบตัวจะใช้เชือกคล้องคอ แต่ถ้าหากสถานการณ์ค่อนข้างอันตราย เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นจะต้องจับตายด้วยการใช้อาวุธปืนลูกซองยาวกระสุนหัวระเบิด เบอร์ 9 ที่เตรียมมายิง เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกคน
