นายอำเภอสั่งตรวจสอบแล้ว! คนแห่ ร่อนทอง คลองชลประทาน หวั่นผิดพ.ร.บ.แร่ เล็งสั่งปิดเป็นพื้นที่ควบคุม หวั่นการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

กรณี นายกรภัทร พรของแม่ หรือบี อายุ 33 ปี ครูสอนพิเศษ และพ่อค้าขายของในตลาดนัดที่ราชบุรี ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้ไม่สามารถสอนหนังสือตามบ้านได้ จึงออกหาปลาตามคลองชลประทาน หลังสนามกอล์ฟ หมู่ 9 ต.คูบัว ติดกับต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ทว่าได้ร่อนเจอเศษทองคำ 1 ชิ้น และจี้ทองคำรูปกระต่าย 1 ชิ้น ซึ่งพิสูจน์ภายหลังพบว่าเป็นทองนพคุณ ต่อมามีนักร่อนทอง ออกมายืนยันว่าในคลองมีทองอยู่จริง โดยพบทั้งสร้อย-แหวนทอง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณคลองชลประทาน หมู่ที่ 5 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งมีเขตติดต่อระหว่างพื้นที่ ต.คูบัว และ ต.อ่างทอง อ.เมือง มีชาวบ้านในพื้นที่เมืองราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมากต่าง นำกระชอน กระทะ กะละมัง อุปกรณ์การร่อนหาเศษทองคำเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก หลังมีกระแสข่าวชาวบ้านคนหนึ่งพบเศษทองคำตกอยู่ในลำคลอง และนำไปให้ร้านทองตรวจพิสูจน์ ผลตรวจพิสูจน์ปรากฏว่าเป็นเศษทองคำจริงๆ ส่งผลให้ข่าวแพร่สะพัดออกไปผ่านสื่อโชเชียลต่างๆ ทำให้มีประชาชน แห่เดินทางเข้ามาร่อนหาเศษทองคำเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดทางองค์การบริหารส่วนตำบลดอนตะโก ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุข นำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ เจลล้างมือแอลกอฮอล์ สมุดลงบันทึก โดยให้ชาวบ้านทุกคนที่จะเข้ามาร่อนหาทองคำ จะต้องตรวจคัดกรองเข้มตามมาตรการโควิด-19 เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกัน เนื่องจากราชบุรีถือเป็น 1 ใน 28 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด

นายกวิน ศรีสว่าง อายุ 66 ปี ชาวอัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า “เดินทางมาจาก จ.สมุทรสงคราม เมื่อวานก็มา วันนี้มาตั้งแต่เช้า ยังไม่ได้เลย ไม่ได้อะไรเลย จะเป็นเศษเหล็กก็ไม่เจอ ที่ผ่านมาเคยไปร่อนท่องที่อำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เคยได้ทอง พอทราบอยู่ว่าเกล็ดทองเป็นอย่างไร พอมาตรงนี้แล้วไม่มีเกล็ดทองแบบนั้น คิดว่าไม่น่าจะมีทอง

ถ้ามีจริงก็น่าจะเจอผงทองเล็กๆ ส่องประกายระยิบระยับอย่างที่บางสะพาน อย่างที่เขาเอามาให้ดูนั้นเห็นเป็นชิ้นๆ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ซึ่งเขาก็ได้ไปแล้ว ไปเช็คดูก็พบว่าเป็นทองแท้ ส่วนตัวเองมา 2 วัน แล้วยังไม่ได้เลย โดยตัวเองอยู่กับบ้านไม่มีรายได้ จึงนำลูกหลานมาช่วยกันร่อนทอง เผื่อมีรายได้ช่วงนี้”

ต่อมา นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมือง พร้อมด้วย นายอานันท์ ฟักสังข์ อุตสาหกรรมจังหวัด น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ นายก อบต.คูบัว นายก อบต.ดอนตะโก เจ้าหน้าที่ชลประทาน เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบดูการร่อนทองจุดดังกล่าว เพราะเนื่องจากมีชาวบ้านมารวมตัวกันจำนวนมาก เกรงส่งผลถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายทศพล เปิดเผยว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นห่วงมาก เพราะอ.เมืองราชบุรี ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ และจ.ราชบุรี อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด อยู่ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การรวมกลุ่มจำนวนมากเกิน 100 คน เป็นอันตรายต่อการควบคุมโรคนั้น คงให้ทำไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่ข้ามจังหวัดอื่นมาก็ไม่ได้แล้ว

“ประเด็นนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรวจสอบเรื่อง 2 ประเด็น คือวัตถุที่พบเป็นอะไร เมื่อเป็นสินแร่จะไปเข้าพ.ร.บ.แร่ ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดจะให้รายละเอียด โดยจะมีข้อกฎหมายในการควบคุมดูแลว่า ด้วยเรื่องนี้อยู่ ไม่ใช่อยู่ๆ จะมีคนมาร่อนแร่ได้ จะมีกฎหมายต้องขออนุญาตนายกอบต. และตรวจสอบคุณสมบัติ

เมื่อพบตัวแร่ก็ต้องจ่ายค่าภาคหลวง มีกฎหมายและมีโทษอยู่ แต่หากเป็นของเก่า ก็จะเป็นการป้องกันควบคุมโรค หากเข้ามาจำนวนมากคงเป็นอันตราย ประชาชนในบริเวณนี้เขาจะกลัวโรค ถ้าติดโควิด ระบาดอีก ก็จะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจกันอีก เท่าที่ทราบวัตถุที่พบก็เป็นทองรูปพรรณ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องสินแร่” นายทศพล กล่าว

นายทศพล กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ทางธรณีวิทยาพบว่า คลองสายน้ำเส้นนี้มาจากทางไหน จ.ราชบุรี มีการศึกษาวิจัยว่าไม่มีการพบสินแร่ทองเลย ถ้าเป็นเรื่องทองเก่า ทองโบราณ ตรงนี้เป็นเมืองเก่า เมื่อเกือบ 2 พันปีที่แล้ว คิดว่าของเหล่านั้นคงไม่เหลือแล้ว จึงขอตรวจสอบวิเคราะห์ให้ดี มาก็เสียเวลากันไม่เกิดประโยชน์

หลังจากนั้นจะมีหนังสือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องมาตรการป้องกันควบคุมโรค คนต่างจังหวัดจะเข้ามาไม่ได้จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ เบื้องต้นหากมีประชาชนเข้ามาในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น คงจะต้องสั่งให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ควบคุม คงไม่ให้เข้ามาในสถานการณ์อยู่ภายใต้การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ด้าน นายอานันท์ กล่าวว่า มีแผนที่ศักยภาพแร่ ซึ่งดูในแผนที่แล้ว ตรงนี้ไม่มีศักยภาพของแร่ทองคำที่พูดถึงในนี้เลย ในหลักการถ้ามีคนมาร่อนแร่ที่นี่ ก็จะมีพ.ร.บ.2560 ว่า ผู้ใดประสงค์จะมาร่อนแร่ สินแร่ จะต้องไปขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อน ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติ เช่น ต้องเป็นคนในพื้นที่ ต้องเป็นผู้มีรายได้น้อย

โดยที่มีผู้ใหญ่บ้านรับรอง และเมื่อร่อนแร่ สินแร่ ไม่ใช่ทองคำรูปพรรณ จะต้องไปเสียค่าภาคหลวงในท้องถิ่นนั้นๆ หมายว่า ท้องถิ่นจะเป็นคนกำกับดูแลทั้งหมด ไม่ใช่อยู่ดีๆใครก็มาร่อนแร่ได้ เป็นข้อกฎหมายในเบื้องต้น คาดว่าพื้นที่นี้ไม่น่าจะมีสินแร่ที่อยู่ในดิน ใต้น้ำ จุดดังกล่าว

ทางน้ำที่ไหลผ่านตรงนี้ได้แก่ ไหลจากทิศตะวันตกมาทางทิศตะวันออก ส่วนพื้นที่ศักยภาพทางแร่ปรากฏว่า จากการตรวจสอบแล้วไม่เป็นพื้นที่ศักยภาพทางแร่ ส่วนบริเวณใกล้เคียงจะเป็นแร่ดีบุก ถ่านหิน และแร่ฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นต้นน้ำที่ไหลผ่านพื้นที่ตรงนี้ จะอยู่แถวอ.สวนผึ้งทางด้านทิศตะวันตก

“ส่วนการเกิดลักษณะแร่ทองคำ สามารถทำเหมืองได้จะมีอยู่ 2 ชนิดคือ เกิดจากแร่ที่เป็นจุดแข็ง และเกิดการชะล้างแร่ที่เป็นหินแข็งแล้วไหลมาทางน้ำต่างๆ ซึ่งการเกิดแร่จะมีอยู่ 2 ชนิดนี้ แต่ถ้าดู ณ ตอนนี้ ถ้าแหล่งแร่ที่เจอน่าจะเป็นลักษณะที่ 2 คือ เกิดจากการชะล้างจากหินแข็งด้านบนแล้วไหลลงมาเรื่อยๆ แต่เมื่อดูภูมิประเทศแถบนี้พบว่า มีเขื่อนคลองชลประทานกั้นเป็นช่วงๆ ค่อนข้างยากที่จะเกิดลักษณะแบบนี้

กรณีเมื่อชาวบ้านไปพบทองนั้น คงต้องไปแสวงหาข้อเท็จจริงกันอีกที แต่จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับมาเดิมแล้วนั้น เส้นทางปรากฏพื้นที่ไม่มีประวัติพบเจอแร่มาก่อน จึงสันนิษฐานว่าคงจะไม่ใช่แร่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และพื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่ศักยภาพแหล่งแร่ทองคำ ส่วนทองที่พบเห็นนี้มาจากไหนนั้น คงต้องให้เจ้าหน้าที่ไปสืบหาต่อไป” นายอานันท์ กล่าว

 

ที่มา มติชนออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน