โผล่อีกรายยายวัย 71 ปี ถูกเรียกคืนเบี้ยคนชรา กว่า 50,000 บาท เผยอดีตสะเทือนใจ สามีเป็นตำรวจ ถูกคอมมิวนิวต์ล้อมถล่มยิงในโรงพัก
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเรียม สุขวิทย์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/2 ม.2 ต.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แม่ค้าขายขนมจีน ถูกเทศบาลต.ทรายขาว เรียกเก็บเบี้ยผู้สูงอายุย้อนหลังกว่า 5 หมื่นบาท เพราะได้รับเงินบำนาญของสามีอดีตตำรวจ เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่
- อ่าน อุทัยฯก็มี! ยายวัย 70 ถูกเรียกคืนเบี้ยคนชรา ‘อบต.’ ขู่ฟ้อง ต้องเก็บผักบุ้งขายใช้หนี้
- อ่าน โดนย้อนหลัง 20 ปี! เบี้ยคนชรา ยายสุโขทัยวัย 86 ป่วยติดเตียง สุดช้ำจะเอาเงินที่ไหน
- อ่าน เจออีกที่เชียงราย ยาย 89 ถูกเรียกคืนเบี้ยคนชราเกือบแสน ป่วยหนัก รอวันตาย
นางเรียม กล่าวว่า ก่อนนี้สามีของตนคือร.ต.อ.สมหวัง สุขวิทย์ ประจำอยู่ที่สภ.ทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โดยเมื่อปี 2521 สามีเสียชีวิตขณะกำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ที่สภ.ทรายขาว ซึ่งถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในยุคนั้น บุกล้อมโรงพักยิงถล่มใส่เป็นเหตุให้สามีเสียชีวิต
หลังจากนั้นกว่า 10 ปี ตนก็ได้รับเงินบำนาญของสามี เป็นเงินเดือนละประมาณ 9,000-10,000 บาท โดยเริ่มได้เงินบำนาญมาตั้งแต่ปี 2530 กระทั่งต่อมาเมื่อตนอายุได้ 60 ปี ทางเทศบาลก็นำเอกสารมาให้ตนเซ็นเพื่อรับเงินในโครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่นำเอกสารมาให้เซ็น ก็ไม่ได้สอบถามว่าตนได้รับสิทธิสวัสดิการอื่นใดอยู่หรือไม่ ตนจึงไม่ทราบก็เซ็นรับไป และได้เงินในปีแรกเดือนละ 600 บาท จนอายุได้ 70 ปี ก็ขึ้นเป็นเดือนละ 700 บาท แต่หลังอายุ 70 ปี ได้รับเงินมา 2 เดือน เจ้าหน้าที่ก็แจ้งหยุดจ่ายเงินให้เพราะคุณสมบัติของตนผิดเงื่อนไข
นางเรียม เผยต่อว่า หลังจากนั้นเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่แจ้งว่าตนต้องจ่ายคืนเงินเบี้ยยังชีพคนชราที่ได้รับไปเกือบ 10 ปี เป็นเงินกว่า 50,000 บาท ซึ่งตนเองก็ไม่มีปัญญาจะหาเงินมากขนาดนั้นมาให้ เพราะทุกวันนี้ต้องทำขนมจีนขาย มีรายได้จากกำไรวันละ 200-300 บาทเท่านั้น
ส่วนเงินบำนาญของสามีที่ได้รับในปัจจุบัน ก็ได้ไม่แน่นอน บางเดือนได้ 10,000 บาท บางเดือนได้ 9,000 บาท ต้องใช้เป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งตนว่าหากจ่ายคืนเป็นเงินก้อนจะไม่ถูกจ่ายดอกเบี้ย แต่ถ้าจะผ่อนคืนก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย ตนจึงตกลงที่จะผ่อนจ่ายคืน
ซึ่งทีแรกตนก็คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ไปเซ็นรับเบี้ยยังชีพ แต่พอเห็นข่าวที่สื่อกำลังนำเสนอ ก็พบว่ามีคนที่เดือดร้อนกรณีคล้ายตนอีกหลายคน จึงอยากให้ทางภาครัฐช่วกยแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ด้วย
