ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ยืนยันมีสิทธิในที่ทำกินดั่งเดิม แต่ฝ่ายรัฐยืนกรานให้ไม่ได้ อ้างชาวบ้านคนอื่นก็จะเรียกร้องขอขึ้นมาทำกินแบบเดียวกันอีก

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2564 ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายนิรันดร์ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มชาวกะเหรี่ยง นำโดยนายนอแอ๊ะ มีมิ ลูกชาย ปู่คออี้ มีนิ

จากการพูดคุยในวันนี้ ชาวบ้านที่ขึ้นไปต่างยืนยันว่าพวกตนมีสิทธิ์ที่จะกลับขึ้นไปทำกินบนพื้นที่เดิมของบรรพบุรุษ และการทำกินก็อยู่ในไร่เลื่อนลอยเดิมไม่ใช่การเปิดป่าใหม่ และนอกจากนั้นยังเสนอเงื่อนไขว่าชาวบ้านทั้ง 36 ครอบครัว ต้องการทำไร่หมุนเวียน

ส่วนแปลงไร่หมุนเวียนอยู่จุดไหนบ้าง ขอให้เจ้าหน้าที่มารังวัดแนวเขตพื้นที่ทำกินให้ แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่แย้งว่าหากทำตามความต้องการจะใช้พื้นที่สำหรับการทำไร่หมุนเวียนบนป่าแก่งกระจานจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะถ้าหากทำได้ชาวบ้านคนอื่นก็จะเรียกร้องขอขึ้นมาทำกินแบบเดียวกันอีก

แต่ถ้าหาวิธีการอื่นด้วยการแก้ปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมจะดำเนินการหาทางแก้ไขให้โดยเร่งด่วน

น.ส.เนตรนภา กล่าวว่า ได้เสนอให้ชาวบ้านส่งตัวแทน 5 คน ลงไปเจรจากันที่บ้านบางกลอยด้านล่าง วันที่ 25 ก.พ. 64 ซึ่งฝ่ายอุทยานจะส่งตัวแทนมาเจรจากับฝ่ายชาวบ้านเพื่อรับฟังข้อเรียกร้องต่าง ๆ พร้อมให้มีสื่อมวลชนร่วมรับฟังการเจรจาเพื่อเป็นสักขีพยาน ส่วนชาวบ้านที่อยู่บางกลอยบน จะไม่มีการบุกรุกหรือเผาป่าเพิ่มจนกว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงกันในวันที่ 25 ก.พ. นี้ต่อไป

ด้านนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารมว.การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีชาวบ้านเดินเท้าขึ้นไปเพิ่มอีก 38 คน รวมกลุ่มเดิม 21 คน เป็น 59 คนแล้ว สำหรับตัวแทนกระทรวงที่มีอำนาจตัดสินใจ จะปรึกษากับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และนำเข้าสู่คณะกรรมการเรื่องนี้ซึ่งมีรองปลัดกระทรวงฯ เป็นประธานต่อไป

/////

หมายเหตุ : การทำไร่หมุนเวียน คือระบบการผลิตพื้นบ้านของคนกะเหรี่ยงและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่บนที่สูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่นๆ การที่ต้องหมุนเวียนพื้นที่เพื่อคืนความสมบูรณ์ทางธรรมชาติจึงใช้เนื้อที่มากแต่ยั่งยืนตามระบบนิเวศ

เว็บไซต์ thecitizen.plus เผยแพร่งานวิจัยของ รุจิพัฒน์ สุวรรณสัย เกี่ยวกับเรื่องการทำไร่หมุนเวียน ระบุว่า ไร่หมุนเวียนเป็นการผลิตในระยะสั้นและปล่อยพักฟื้นระยะยาวจนผืนดินคืนความสมบูรณ์แล้วจึงวนกลับมาทำที่เดิมไร่หมุนเวียน

ไม่เพียงเป็นระบบการผลิตอาหารที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นอัตลักษณ์วัฒนธรรมของคนกะเหรี่ยงที่แฝงองค์ความรู้ชาติพันธุ์นิเวศ ระบบการจัดการทรัพยากรส่วนรวม และระบบการผลิตเชิงศีลธรรมเพื่อการยังชีพอย่างมั่นคง

อย่างไรก็ตาม ไร่หมุนเวียนเริ่มประสบปัญหา เมื่อถูกมองว่าเป็นระบบการผลิตที่ล้าหลังไม่มีประสิทธิภาพ กระทบต่อป่าไม้ที่เป็นแหล่งทรัพยากรอันมีค่าของรัฐ ซึ่งขัดกับความเป็นจริงที่เป็นวิถีของกลุ่มชาติพันธุ์บนที่สูง และรัฐประกาศเขตป่าอนุรักษ์ครอบทับพื้นที่ทำกินของคนกะเหรี่ยง ไร่หมุนเวียนจึงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ถูกห้ามทำไร่หมุนเวียน

//////

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน