หนุ่มวัย 26 ป่วยมา 2 วัน จู่ๆ เจอเป็นศพเลือดเต็มหมอน ในบ้านกลางสวนทุเรียนพะโต๊ะ หมอคาดอาจเป็นโรคฉี่หนู ไม่พบโควิด ญาติติดใจส่งศพชันสูตร

วันที่ 30 พ.ค.64 พ.ต.ท.ถาวร อัมพัน สารวัตร (สอบสวน) สภ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตในพื้นที่หมู่ 14 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และกำลังจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุ ห่างไกลจากถนนสายหลัก หลังสวน-ราชกรูด ขึ้นไปบนภูเขาสูง เส้นทางทุรกันดาร คดเคี้ยวตามไหล่เขาร่วม 10 กม. พบว่าใจกลางหุบเขาพะโต๊ะ เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ท่ามกลางสวนทุเรียนนับร้อยไร่ ด้านบนของบ้านใช้ผ้าพลาสติกกั้นเป็นห้องนอน จากการตรวจสอบบนที่นอนพบศพ นายกมล ทองตะโก อายุ 26 ปี อาชีพทำสวนทุเรียน นอนคว่ำหน้าตัวแข็งทื่อ มีเลือดไหลออกจากปากและจมูกจนเปื้อนหมอน ไม่พบร่องรอยถูกทำร่ายหรือการต่อสู้แต่อย่างใด และไม่มีบาดแผลตามร่างกาย

เบื้องต้น แพทย์ที่ รพ.พะโต๊ะ ได้ตรวจสอบว่าเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 หรือไม่ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ตายเพราะการติดเชื้อโควิด จากสอบถามญาติๆ ทราบว่า นายกมล บ่นว่ามีอาการไข้มา 2-3 วัน ปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งอาจจะเป็นโรคฉี่หนูที่กำลังระบาดในพื้นที่ ต.พะโต๊ะ มีผู้ป่วยอาการหนักมารับการรักษาใน รพ.พะโต๊ะ อยู่จำนวนหนึ่ง

ขณะที่ นางพรรณี ทองตะโก อายุ 54 ปี แม่ของ นายกมล เล่าว่า ลูกชายแยกจากครอบครัวที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ไปได้ภรรยาทำธุรกิจด้านหอพักที่ จ.ปทุมธานี เมื่อเกิดการระบาดของโควิดได้แยกกันอยู่ นายกมล จึงเดินทางกลับมาทำสวนทุเรียนที่ อ.พะโต๊ะ โดยเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ภรรยาได้คลอดลูกจึงกลับไปเยี่ยมที่ จ.ปทุมธานี แล้วส่งภรรยากลับไปอยู่ที่ จ.สุโขทัย ส่วนตัว นายกมล กลับมาทำสวนทุเรียนต่อไป พร้อมทั้งได้กักตัวและตรวจหาเชื้อโควิดแต่ไม่พบ

จากนั้น นายกมล จึงเดินหน้าทำสวนทุเรียนหมอนทองที่มีอยู่ร้อยกว่าไร่ ในพื้นที่ดังกล่าว โดยทำร่วมกับลุง จนเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา นายกมล บ่นว่ามีอาการเป็นไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เมื่อวาน (29 พ.ค.) จึงไปหาหมอที่คลินิกในตลาดพะโต๊ะ ได้รับการฉีดยา 1 เข็ม พร้อมทั้งยากินอีกจำนวนหนึ่ง แล้วกลับมานอนที่บ้าน จนวันนี้ (30 พ.ค.) ช่วงเกือบเที่ยง ลุงขึ้นไปเรียกบนห้องนอน พบว่าเสียชีวิตแล้ว

ด้าน นายสุทิน ทองตะโก อายุ 51 ปี พ่อของ นายกมล กล่าวว่า ยังติดใจเรื่องสาเหตุการตาย และอยากรู้ว่าลูกตายด้วยโรคอะไรกันแน่ เพื่อจะได้ทำให้เกิดความกระจ่าง ถ้าเป็นโรคติดต่อก็จะได้ให้ชาวบ้านระวังป้องกันตัว ซึ่งได้รับแจ้งจากแพทย์ว่า ต้องส่งศพไปยังหน่วยนิติเวชที่ จ.ระนอง หรือ จ.สุราษฎร์ธานี ก็จะทราบผลที่ชัดเจน ส่วนสาเหตุอื่นๆ เช่นการฆาตกรรมไม่ได้ติดใจอะไร จะได้ปรึกษากับญาติๆ เพื่อนำศพส่งพิสูจน์หาสาเหตุโรคที่ทำให้ลูกชายที่ยังหนุ่มแน่นแข็งแรงไม่เคยมีอาการว่าจะเป็นโรคอะไรให้แน่ชัดต่อไป

ต่อมา ญาติๆ ได้ตัดสินใจส่งศพ นายกมล ไปยังนิติเวช รพ.ระนอง เพื่อหาสาเหตุการป่วยตายในครั้งนี้แล้ว แต่กระแสข่าวการตายของ นายกมล ทำให้ชาวบ้านพากันร่ำลือว่าอาจมาจากโรคโควิด-19 ทั้งที่ อ.พะโต๊ะจ.ชุมพร ไม่เคยมีผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 แม้แต่คนเดียว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน