เลยวิกฤต ผู้ป่วยเดินทางเข้ามารักษาในพื้นที่จังหวัดเลย เตียงเหลือน้อยลงทุกวัน ด้านสาธารณะสุขเผยประมาณ 10 วัน เตียงในโรงพยาบาลอาจหมด

วันที่ 2 ก.ค. 64 ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 จ.เลย นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และนายปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย แถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พบผู้ป่วยรายใหม่ 9 ราย สะสมในระลอกเดือนเมษายน 2564 มีจำนวน 150 ราย หายป่วยแล้ว 100 ราย กำลังรักษา 49 ราย เสียชีวิต 1 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 1,542 ราย

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า สถานการณ์ในช่วงนี้ จะมีผู้ป่วยเดินทางกลับมารักษายังภูมิลำเนาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เตียงตามโรงพยาบาลต่างๆรวมทั้งหมด 187 เตียง ใช้ไปแล้ว 64 เตียง คิดเป็นร้อยละ 34.22 เหลือเตียงว่าง 123 เตียง หรือร้อยละ 65.78 คาดการณ์ว่า เตียงที่มีอยู่ จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก 10 วัน

ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.เลย ได้เตรียมแผนเปิดโรงพยาบาลสนามรองรับไว้แล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วยที่โรงพยาบาลจิตเวชเลย ราชนครินทร์ 10 เตียง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหนองหิน 20 เตียง และหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.28 จำนวน 100 เตียง

อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลยอนุมัติเสียก่อน ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันพรุ่งนี้ จึงอยากขอให้ผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดเลยที่ต้องการเดินทางกลับมา ขอให้แจ้งกับทางโรงพยาบาล จะได้เข้าสู่การรักษาได้ทันที ลดจำนวนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ป่วยเดินทางเข้ามาอีกหลายราย

สำหรับผู้ป่วยรายที่ 142 เป็นหญิงไทย อายุ 49 ปี อาชีพทำงานก่อสร้างอยู่ที่ กทม.เดินทางมาพร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 143 และ 144 โดยรถยนต์ส่วนบุคคล ภูมิลำเนาอยู่บ้านห้วยไผ่ ต.อิปุ่ม อ.ด่านช้าย มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานที่ตรวจพบเชื้อที่ กทม. ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

รายที่ 143 เป็นชายไทย อายุ 43 ปี อาชีพ ขับรถฉีดพ่นน้ำพื้นถนน เดินทางมาพร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 142 และ 144 โดยรถยนต์ส่วนบุคคล ภูมิลำเนาอยู่บ้านห้วยไผ่ ต.อิปุ่ม อ.ด่านช้าย มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานที่ตรวจพบเชื้อที่ กทม. ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

รายที่ 144 เป็นหญิงไทย อายุ 43 ปี อาชีพรับจ้าง (แม่บ้านใน Office) เดินทางมาพร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 142 และ 143 โดยรถยนต์ส่วนบุคคล ภูมิลำเนาอยู่บ้านโพนสว่าง ต.วังยาว อ.ด่านช้าย ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

รายที่ 145 เป็นหญิงไทย อายุ 40 ปี อาชีพเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่กทม. ภูมิลำเนาอยู่บ้านนาเจริญ ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย

รายที่ 146 หญิงไทย อายุ 32 ปี อาชีพขายไก่ย่าง ส้มตำอยู่ที่ จ.นครปฐม ภูมิลำเนาอยู่บ้านพองหนีบ ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 3 ราย

รายที่ 147 เป็นเพศชาย สัญชาติกัมพูชา อายุ 38 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้างที่ กทม. ภูมิลำเนาอยู่บ้านดอนหอ ต.หนองคัน อ.ภูหลวง ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย

รายที่ 148 ชายไทย อายุ 48 ปี อาชีพขับรถของบริษัทแห่งหนึ่ง (เป็นสามีของผู้ป่วยรายที่ 144) ภูมิลำเนา อยู่บ้านโพนสว่าง ต.วังยาว อ.ด่านซ้าย ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

รายที่ 149 หญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพเป็นพนักงานธุรการในแคมป์คนงานก่อสร้าง เขตภาษีเจริญ ภูมิลำเนาอยู่บ้านโคกงาม ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

รายที่ 150 ชายไทย อายุ 30 ปี อาชีพวิศวกรก่อสร้าง ย่านภาษีเจริญ (สามีของผู้ป่วยรายที่ 149) ภูมิลำเนาอยู่บ้านโคกงาม ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

ส่วนอีก 2 ราย เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลในต่างจังหวัด รายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 50 ปี อาชีพคนงานก่อสร้างบริษัทอิตาเลียนไทย เขตหลักสี่ กทม. ภูมิลำเนาอยู่ ต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง มีประวัติเคยรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ ระหว่างวันที่ 14 พ.ค. – 10 มิ.ย. 64 เดินทางกลับมาบ้าน จ.เลย พร้อมกับสามี ในวันที่ 26 มิ.ย. 64 และวันที่ 28 มิ.ย. 64 ผู้ป่วยมีอาการ ไข้ ไอ หอบ จึงไปรักษาที่โรงพยาบาลวังสะพุง และส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลเลย

ส่วนอีกหนึ่งราย เป็นหญิงไทย อายุ 28 ปี อาชีพคนงานก่อสร้าง ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ภูมิลำเนาอยู่บ้านแสงอรุณ ต.นาด้วง อ.นาด้วง ปัจจุบันรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเลย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 1 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน