รวบเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 7 ราย ยาบ้ารวม 1.5 แสนเม็ด ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี เตรียมทุ่มงบ 1 ล้านบาท ตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางสายหลัก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ต.ค. 2565 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายพีระ กาญจนพงษ์ ผอ.ปปส.ภ.8 พ.ต.อ.วันไชย สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงผลจับกุมและขยายผลเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมของกลางยาบ้ารวม 1.5 แสนเม็ด
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดจังหวัดสุราษฎร์ธานี บูรณาการร่วมกับสำนักงานป.ป.ส. ภาค 8 มณฑลทหารบกที่ 45 ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กอ.รมน.ภาค 4 และอีกหลายหน่วยงาน ได้ขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.บ้านนาสาร ได้ของกลางยาบ้า และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุยาเสพติดนับล้านเม็ด คาดว่าจะถูกกระจายออกไปในหลายพื้นที่ จึงสืบสวนขยายผล และสามารถจับกุมได้อีก 5 คดี ได้ผู้ต้องหา 6 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 9,797 เม็ด และไอซ์ 9.3 กรัม
นายวิชวุทย์ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้สืบสวนพบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ เครือข่าย“ลูกพี่” หรือ “เจ้าสัว” จึงวางแผนให้สายลับ ติดต่อล่อซื้อยาเสพติด 2,000 เม็ด โดยนัดส่งมอบในพื้นที่อ.พุนพิน เมื่อผู้ต้องหานำยาเสพติดมาส่งมอบตามนัดหมายจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า มียาบ้าเก็บรักษาอยู่ในพื้นที่ ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีคนเฝ้าอยู่ 2 คน จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น เมื่อไปถึงพบชาย 2 คน อาศัยอยู่ในบ้าน แต่จับกุมได้ 1 คน ส่วนอีกคนอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ ซึ่งพบว่าจุดดังกล่าวมียาบ้า 1.5 แสนเม็ด จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและขยายผลต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต่อว่า สุราษฎร์ธานีได้ขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการประกาศสงครามกับยาเสพติด โดยเฉพาะมาตรการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ตั้งแต่ในกลุ่มข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีการสุ่มตรวจต่อเนื่อง หากพบก็จะดำเนินการทางวินัยเด็ดขาด ควบคู่กับการแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชน กลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด
นายวิชวุทย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพบปัญหาว่า เมื่อค้นพบผู้ป่วยผู้เสพ จะนำขึ้นศาลเปรียบเทียบปรับ หากมีอาการปกติก็จะปล่อยตัวกลับ ทำให้คนกลุ่มนี้มีโอกาสกลับไปเสพซ้ำ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลมีนโยบายชัดเจน จึงให้กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ เตรียมพร้อมจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ในหมู่บ้าน ชุมชน โดยมีสำนักงาน ป.ป.ส. สนับสนุนงบประมาณ เพื่อนำผู้ป่วยจากยาเสพติดเข้าบำบัดฟื้นฟู โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาการทางจิตประสาทร่วมด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนเหล่านี้ ออกไปก่อเหตุทำอันตรายผู้อื่น และป้องกันการกลับไปเสพยาเสพติดซ้ำ โดยมีกลไกของชุมชน/หมู่บ้าน กำกับดูแล
ส่วนการกวาดล้างจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ที่ทวีความรุนแรง และปรับแนวทางการค้ายาเสพติด จากกองทัพมดเป็นการเสี่ยงขนยาเสพติดครั้งละมากๆ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เตรียมสนับสนุนงบประมาณจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อตั้งจุดตรวจจุดสกัด เส้นทางสายหลักให้กับตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อกวดขันจับกุมยาเสพติดอาวุธสงครามและสิ่งผิดกฎหมาย
