ชาวนาบุรีรัมย์แห่เข้าคิวปรับเช็กยอดและถอนเงินทั้งค่าเก็บเกี่ยว-ประกันรายได้ แน่นธกส.ตั้งแต่ก่อนเปิดทำการ เผยดีใจจะได้นำเงินไปจ่ายค่ารถเกี่ยวและค่าปุ๋ยที่ติดค้างไว้ อยากให้มีโครงการต่อเนื่องเพราะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าเก็บเกี่ยวให้ชาวนาได้

วันที่ 28 พ.ย.2565 ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาบุรีรัมย์ ชาวนาจากหลายตำบลในเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พากันนำสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มมาปรับเช็กยอดเงินและถอนเงิน ทั้งโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือ ค่าเก็บเกี่ยว และโครงการประกันรายได้อย่างคึกคักตั้งแต่ก่อนเปิดทำการ

แต่ชาวนาหลายคนไม่สามารถถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มได้ เพราะบัตรหมดอายุ บางคนก็จำรหัสบัตรไม่ได้เพราะไม่ได้ใช้นาน ก็จำเป็นต้องรอคิวทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ และบางคนก็เลือกใช้สมุดบัญชีทำการเบิกถอนเงินที่หน้าเคาน์เตอร์เลย เพราะต้องการนำเงินช่วยเหลือดังกล่าวไปจ่ายค่าเก็บเกี่ยวและค่าปุ๋ยที่ติดค้างไว้ก่อนหน้านี้

เฮ

ชาวนา บอกว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับเงินค่าเก็บเกี่ยว วันนี้ตัดสินใจถอนเงินสดทันทีเพราะต้องนำไปจ่ายค่าเกี่ยวและใช้จ่ายในครอบครัว ทั้ง 2 โครงการเป็นโครงการที่ดีสามารถช่วยแบ่งภาระค่าใช้จ่ายในการทำนาให้กับเกษตรกรได้ ก็อยากให้มีโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง

ด้านนายประทีป เฟื่องสุข ผู้จัดการธกส. สาขาบุรีรัมย์ ระบุ ในส่วนของอำเภอเมืองคาดว่ามีเกษตรกรได้รับเงินช่วยเหลือโครงการค่าเก็บเกี่ยวประมาณ 2 หมื่นราย ยอดเงินประมาณ 100 ล้านบาท อยากฝากถึงเกษตรกรว่าหากยังไม่จำเป็นที่จะเบิกถอนเงินช่วงนี้ยังไม่ต้องเร่งรีบเพราะเมื่อเงินโอนเข้าบัญชีแล้วคนที่มีบัตรเอทีเอ็ม ก็สามารถเบิกถอนได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แน่น

ส่วนคนที่ยังไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ต้องการจะเบิกถอนที่หน้าเคาน์เตอร์ก็อยากให้มาตรงตามวันที่แจ้งประชาสัมพันธ์เอาไว้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ทั้งลดความแออัดด้วย








Advertisement

นับเงิน

สำหรับข้อมูลภาพรวมทั้งจ.บุรีรัมย์ มีเกษตรกรที่ได้รับเงินส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้ ซึ่งแจ้งการเก็บเกี่ยวช่วงระหว่างวันที่ 12-18 พ.ย.2565 จำนวน 70,504 ราย วงเงิน 128,171,146.52 บาท ส่วนโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือ ค่าเก็บเกี่ยว ยอดรวมเกษตรกรทั้งจังหวัด 202,189 ราย วงเงิน 2,537,531,192.50 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน